ดนตรี / วรรณากร

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี นับจากที่เคยเขียนถึงผลงานชุดแรกอย่างเต็มรูปแบบ ของ เลย์เฟวย์ (Laufey) ศิลปินสาวจากไอซ์แลนด์ผู้มีชื่อที่ชวนฉงนว่าควรออกเสียงอย่างไรสำหรับคนนอกประเทศบ้านเกิดของเธอ

ปลายปีที่แล้ว ศิลปินสาวลูกครึ่งจีน-ไอซ์แลนด์เพิ่งออก Bewitched เป็นอัลบั้มชุดที่ 2 ของเธอ ถัดจากงานชุดแรกคือ Everything I Know About Love (2565) แต่ยังไม่ทันจะหยิบมาเขียนถึง เธอก็ดันเวอร์ชันพิเศษที่ชื่อว่า Bewitched : The Goddess Edition ออกมาเสียก่อนเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา

เลย์เฟวย์ เพิ่มเพลงเข้ามาในอัลบั้มเวอร์ชันใหม่อีก 4 เพลง เพราะเธอรู้สึกว่ามันน่าจะทำให้อัลบั้มนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อฟังเทียบเคียงกันแล้ว ต้องยอมรับว่าเธอคิดถูก

แต่เดิมนั้น Bewitched คืออัลบั้มป็อป-แจสส์ที่น่าฟังอย่างยิ่งอยู่แล้ว ทั้ง 14 เพลงในอัลบั้มเป็นเรื่องราวของความรักหลากรูปแบบ แต่โทนรวมออกมาในมุมหม่นและมีอารมณ์หน่วงไปสู่ความเศร้าและซึม

เจ้าของฉายา “สาวแจสส์แห่งเจเนอเรชัน Z” ไม่เพียงสร้างเพลงของเธอด้วยการใส่ความเป็นป็อปลงไปในแจสส์ได้อย่างแนบเนียน แต่มีสีสันของเพลงคลาสสิกที่ปรับให้ทันสมัยขึ้นด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เมื่อคิดถึงภูมิหลังของเธอที่ซึมซับดนตรีคลาสสิกเหล่านี้มาจากตาและยายซึ่งเป็นครูในสถาบันสอนดนตรีในกรุงปักกิ่ง

เลย์เฟวย์ มีไอดอลผู้ทำให้เธอหลงใหลการร้องเพลงแจสส์คือ บิลลี่ ฮอลิเดย์ ในงานชุดแรกของเธอ เรายังคงเห็นความพยายามเทียบเคียงนักร้องในตำนานผู้เป็นขวัญใจของตัวเอง แต่เมื่อมาถึงผลงานชุดที่ 2 ดูเหมือนว่า เลย์เฟวย์ จะพอใจที่ได้ร้องในแบบที่เป็นตัวเองมากขึ้น ความโดดเด่นนี้อาจมีส่วนทำให้ผลงานชุดนี้ของเธอได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขา Best Traditional Pop Vocal Album เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เมื่อ เลย์เฟวย์ เติมอีก 4 เพลงลงไปในเวอร์ชันใหม่ (“Bored”, “Trouble”, It Could Happen To You”, “Goddess”) เข้าไปนั้น กลายเป็นว่าช่วยทำให้อัลบั้มนี้สดใสขึ้นบ้าง เนื้อเพลงที่มีทั้งมุมที่ซุกซนและกวนประสาทในเพลงใหม่ของเธอ กลับไม่ได้รบกวนภาพรวมของงานดั้งเดิม

โดยสรุปแล้ว ผลงานชุดที่ 2 ของ เลย์เฟวย์ ไม่เพียงแต่ทำออกมาได้ดี แต่ยังเผยให้เห็นทั้งพัฒนาการและศักยภาพในฐานะนักดนตรีของเธอในฐานะศิลปินตัวจริง หาใช่แค่โด่งดังชั่วครั้งคราวเพราะอาศัยกระแสโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด