ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การบัญชาการอำนวยการโดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7. พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ร่วมกับ นายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (เขต3) และนายวรชัย แก้ววิจิตร ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สมุทรสาคร ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าทำการตรวจค้นโรงงานน้ำแข็งร้าง (เลิกกิจการ) ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้หลังจากมีการสืบสวนจนทราบว่า สถานที่ดังกล่าวตรวจพบมีการลักลอบใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฏหมาย 

"ซึ่งเมื่อกำลังไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่า มีแรงงานสัญชาติเมียนมา 1 คนที่ได้แสดงตนเป็นผู้ดูแลในสถานที่ตามเป้าหมายกระทั่งทำการตรวจค้น ปรากฏว่า พบของกลาง ซึ่งประกอบด้วย เครื่องขุดบิทคอยน์ จำนวน 690 เครื่อง (มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท), HUB จำนวน 17 เครื่อง, หม้อแปลงไฟฟ้า ขนาด 2500 KVA จำนวน 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท, โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง และสายไฟฟ้าอลูมิเนียม จำนวน 24 เส้น (ยาวเส้นละ 30 เมตร) ประมาณค่า 5 แสนบาท ซึ่งเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 70 ล้านบาท

โดย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ระบุว่า สำหรับในส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้โดยทางด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้แจ้งประเมินมูลค่าคิดเป็นความเสียหายราว 10 ล้านบาท/ต่อเดือน สำหรับความเสียหายรวมทั้งก่อนหน้าขณะอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังยึดของกลางได้ทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เพื่อส่งชุดสืบสวน สภ,เมืองฯ เพื่อไปขยายผลและสืบเช็คหาตัวเจ้าของสถานที่อย่างแท้จริง เพื่อดำเนินคดีต่อไป