ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีพิธีส่งมอบรถพยาบาล และมอบที่ดินให้กับเทศบาลตำบลหนองบัว นำไปใช้ประโยชน์สูงสุดในการดูแลนำส่งผู้บาดเจ็บ และการเจ็บไข้ได้ป่วยของประชาชน อีกทั้งนำที่ดินไปพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชน
   

 โดยนางกมลพิศ คงแถวทอง อายุ 70 ปี เศรษฐีนีผู้ใจบุญใจกุศล และครอบครัว ได้บริจาครถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งภายในรถ รวมมูลค่ากว่า 1,949,000 บาท  โดยร่วมกับนายกฤษฏา สืบพงษ์ อายุ 75 ปี และครอบครัว บริจาคที่ดิน น.ส.3 ทะเบียนเล่ม (1) 8 หน้า 50 สารบบเล่ม 35 หน้าที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 3 งาน 41 ตารางวา ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 
     โดยมีนายสรรญา ชันเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัว พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง ข้าราชการ รพ.สต.หนองบัว พนักงานลูกจ้าง ร่วมให้ต้อนรับและเป็นสักขีพยานในการรับมอบโดยพร้อมเพรียงกัน

 

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะ 2 ผู้ใจบุญที่บริจาครถพยาบาลได้ตรวจดูความพร้อมและอุปกรณ์ของรถพยาบาลคันดังกล่าวที่ซื้อป้ายแดงมือ 1แล้วนำไปตกแต่งภายในและรอบคันรถ พร้อมทั้งติดตั้งอุปกรณ์กู้ชีพครบครัน ระบบพยุงชีพ ถังอ๊อกซิเจนแบบติดตั้งและเคลื่อนที่ เครื่องกระตุกหัวใจ (AED) กระเป๋าพยาบาล ระบบวิทยุสื่อสาร สัญญาณแสงและเสียงไซเรน 
     โดยคณะได้ขึ้นไปนั่งบนรถพยาบาล ต่างชื่นชมและอิ่มใจอิ่มบุญด้วยรอยยิ้มปลื้มใจในการได้สละทุนทรัพย์ในการมอบรถพยาบาลไว้ช่วยเหลือดูแลชาวบ้าน รวมทั้งบริจาคที่ดินให้กับเทศบาลเพื่อนำไปไว้ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์

     จากนั้นได้มีพิธีลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรในการส่งมอบรถพยาบาลและที่ดินอย่างเป็นทางการ ตามระเบียบราชการ 
     โดยนายกเทศมนตรีฯ ได้มอบเกียรติบัตร พร้อมพระบูชาหลวงปู่ยิ้มหลวงปู่เหรียญ เนื้อทองเหลืองปัดเงา ขนาด 5 นิ้ว คณะละ 1 ชุดแทนคำขอบคุณจากเทศบาลตำบลหนองบัว พร้อมเป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณผู้ใจบุญทั้ง 2 ครอบครัว

     ด้านนางกลมพิศ คงแถวทอง อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า " ที่จริงในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ และที่ได้ใช้รถแอมเบอแลนแล้วเรียกรถอะไรอย่างเนี้ย มีความคิดว่า ถ้าตำบลเรานี้มีรถแบบนี้อยู่ในตำบล การเดินทางนำผู้ป่วยผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล หรือ รพ.สต.ก็จะเร็วขึ้น  ก็เลยมาคิดว่าเอ่อถ้ามีเงินก็อยากจะบริจาคให้เทศบาลฯ ก็เลยติดต่อมาที่เทศบาล ว่าจะซื้อรถพยาบาลมาบริจาคให้โดยกฏหมายใช้ในเขตเทศบาลฯ โดยจะขอให้ทางเทศบาลให้บริการประชาชนทั้งตำบลเพราะถือว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกัน เหมือนรถดับเพลิง ก็ดูแลทั้งตำบลเหมือนกันค่ะ ภูมิใจมากค่ะ ไม่คิดว่าจะต้อนรับกันถึงขนาดนี้ดีใจมากคะ" เศรษฐีนีผู้ใจบุญกล่าว
     
     ด้าน นายกฤษฏา สืบพงษ์ อายุ 75 ปี กล่าวว่า " ได้มอบที่ดิน อันที่จริงส่วนใหญ่ประชาชนก็ใช้ไปแล้วแหล่ะใช้ไปตั้งนานแล้ว แต่มาทำเอกสารให้ถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริง 
     ก็จะมีที่ดินอีกนิดที่ยังมีเป็นปัญหากับที่ดินข้างเคียง ให้รางวัดแนวเขตให้แน่นอน ก็จะได้ปักหลักว่าเป็นที่หลวง จะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน อันที่จริงก็มีการปรึกษากันแล้วก็ว่าดีกว่าคิดเองเออเอง เพราะว่าถ้าคิดเองคนเดียวก็จะไม่เห็นด้านลบ ก็ยินดีเป็นที่ปรึกษาให้แต่ไม่ต้องมาแต่งตั้งอย่างเป็นทางการหรอก  เป็นราชการเกินไปให้คำปรึกษาใส่วิธีคิดกับนายกฯ งานเดิมก็ทำดีอยู่แล้วครับ" นายกฤษฎา กล่าวในตอนท้าย