วันที่ 2 พ.ค.2567 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง และนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.อยุธยา พรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้าไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีจ.ระยอง และสถานการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นที่จ. อยุธยา โดยนายชุติพงศ์ กล่าวว่า ตั้งแต่มีเหตุการณ์ไฟไหม้โกดัง อ.ภาชีครั้งแรก และเกิดไฟไหม้ครั้งที่สอง และไฟไหม้ที่จังหวัดระยอง รัฐบาลโดยนายกฯก็เห็นเรื่องนี้และได้ลงพื้นที่ คำถามคือทั้งที่รู้ว่ามีความเสี่ยง และมีสถานการณ์ต่อเนื่อง จนคนในพื้นที่เริ่มสงสัยว่าเป็นการวางเพลิงต่อเนื่องหรือไม่ ตนในฐานะ สส.ที่ต้องแบกรับปัญหาความทุกข์ของพี่น้องประชาชน และแบกรับข้อร้องเรียนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อยู่หน้างาน ลำบาก เพราะระดับสั่งการตอนนี้มีแต่คำสั่งไม่มีแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ถ้าไหม้ที่ อ.ภาชี ที่เป็นเครือเดียวกัน และมาไหม้ที่วิน โพรเสส จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่เดียวกัน และนายกฯ ก็ลงไปเห็นแล้ว และมาไหม้ที่ภาชีซ้ำอีกรอบ และมีอีกสาขาหนึ่งที่ระยอง คำถามคือจะให้หน่วยงานไหนเป็นเจ้าภาพในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก เพราะควันที่เกิดเกิดขึ้นเป็นสารเคมีอันตราย มีพี่น้องประชาชนกี่พันครัวเรือนที่ต้องได้รับผลกระทบ รัฐบาลต้องสั่งการแบบเป็นรูปธรรมและต้องถามว่าทำงานกันเป็นหรือไม่ ตนเห็นท่านไปที่ระยอง ใช้เวลา 30 นาที ที่เป็นไฮไลท์มีอย่างเดียวคือไปต่อว่าอธิบดีกรมโรงงาน จนท่านลาออก
“ถ้าท่านอยากจะทำหน้าที่ใช้ปากทำงาน ต่อว่าคนจริงๆ ท่านเป็นฝ่ายค้านก็ได้ไม่ต้องเป็นรัฐบาล เพราะอำนาจสั่งการอยู่ที่ท่าน ๆ ก็สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเลย ว่าจะให้ทำอะไร จะต้องฟ้องชดเชยเยียวยา สั่งการขนออกไปด้วยงบกลางหรืองบอะไร เพราะอำนาจและงบประมาณอยู่ในมือท่าน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตนขอฝากรัฐบาลว่าต้องมีแผนปฏิบัติการเพราะไม่รู้ว่าจะไหม้ไปถึงเมื่อไร และไหม้อีกกี่ที่ เพราะโรงงานที่เก็บกากอุตสาหกรรมพวกนี้ เท่าที่ทราบตอนนี้มี 2,000 กว่าแห่ง ไม่รู้จะเกิดขึ้นที่บ้านใครบ้าง เพราะโรงงานพวกนี้ไม่ได้แจ้งว่าเก็บสารเคมีชนิดใดบ้าง ตนขอให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังเรื่องนี้ รวมถึงการขนย้ายจะใช้งบแบบไหน ขนอย่างไร และเมื่อไร อย่างที่เขตตนกรณีวินโพรเสส เป็น 10 ปีมาแล้วยังไม่จบไม่สิ้น นายกฯ ลงพื้นที่แล้วยังขนไม่ได้ ตนก็ไม่รู้จะให้ใครขนออกไปได้ เพราะที่ผ่านมานายกฯ สั่งการอะไรไม่ได้ผลสักเรื่อง”
เมื่อถามย้ำว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่อ.ภาชี และอ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นเจ้าของเดียวกันหรือไม่ นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ตนมี เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ คอนเฟิร์มว่า 2 เจ้าแม้จะคนละชื่อบริษัท แต่เป็นเครือข่ายเดียวกันและเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันแน่นอน ส่วนจะเป็นชื่อเดียวกันหรือไม่ให้ไปถาม รมว.อุตสาหกรรม น่าจะได้คำตอบที่ชัดกว่า
เมื่อถามว่าสารเคมีที่ย้ายจากระยองมาเก็บไว้ที่ อ.ภาชี เป็นสารชนิดเดียวกันหรือไม่ นายชุติพงศ์ กล่าวว่า คำถามคือรัฐออกใบอนุญาต การเก็บสารเคมีและโรงงานเหล่านี้ ตรวจสอบกันอย่างไร หลังมีการอนุญาตกรมโรงงานได้มีการไปตรวจสอบหรือไม่ว่าเขาเก็บสารอะไรบ้าง และโรงงานเหล่านี้ได้แจกแจงรายละเอียดหรือไม่ว่าเก็บสารอะไร และเอามาจากไหน ก็ต้องไปถามที่ รมว.อุตสาหกรรม ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และในอนาคตจะยกระดับการเก็บข้อมูลการเคลื่อนย้ายสารเคมีเหล่านี้อย่างไร
ดังนั้นภาครัฐจะต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ชัดเจนว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร เพราะมีการทำอุตสาหกรรมอยู่ทุกจังหวัด ซึ่งข้อมูลจาก กมธ.ก็พบข้อพิรุธน่าสงสัยอยู่เยอะมาก ตอนนี้ต้องถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการแจ้งความไปแล้วกี่หน่วยงาน และต้องใช้กฎหมายใดบ้างเพื่อเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ รวมถึงค่าปรับค่าชดเชยให้กับพี่น้องประชาชน ฝากคำถามไปถึงทุกหน่วยงานที่มีอำนาจในการฟ้องเอาผิดโรงงานที่สร้างความเสียหายวันนี้ท่านทำอะไรไปบ้างแล้ว