ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67   พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ  นำโดย พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุมนายชาญชัย  อายุ 24 ปีอยู่หมู่ที่3 ตำบลโคกแย้  อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรีพร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์  ขนาดยาว 18 เซนติเมตร จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน  ขนาด .38 นิ้ว  จำนวน 4 นัด.ปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 นิ้ว   จำนวน 2 ปลอก,ซองหนังสีดำแบบมีซิปเปิด-ปิด จำนวน 1 ซอง และกระเป๋าหนังสีดำแบบมีซิปเปิดปิด  จำนวน 1 ซอง โดยกล่าวหาว่า “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร" และ "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว"

พล.ต.ต.ธีเดช กล่าวว่าหัวอกของพ่อแม่ ที่ต้องตามหาลูกสาววัย 14 ปีหายตัวไปกว่า 5 เดือน และไม่สามารถติดต่อได้ หลังพบว่า นายชาญชัย  ได้พาตัวลูกหนีไป  ซึ่งเมื่อได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดชุดสืบนครบาลเร่งตามหาตัวน้อง โดยใช้เวลากว่า 45 วัน สืบสวนติดตาม  จนพบในไซต์งานแต่นาชาญชัยวิ่งหนีแต่หนีไปพ้นพ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ วัย 59 ปี ที่สามารถวิ่งจนทันและควบคุมตัวไว้ได้ 

สำหรับพฤติการณ์ ๅแห่งคดี คือ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566  ผู้ปกครองเฝ้าติดตามบุตรสาวอย่างใกล้ชิดโดยรับส่งที่โรงเรียน และพี่ชายมีหน้าที่คอยรับกลับบ้านหลังเลิกเรียน แต่ด้วยวันดังกล่าวบุตรสาวแสดงท่าทางที่ผิดวิสัยทำให้ผู้ปกครอง พยายายามซักถามเพื่อหาข้อเท็จจริง จนได้ทราบภายหลังว่า ในวันดังกล่าว ช่วงเวลา14.00 น. บุตรสาวตนและผู้ต้องหา ได้ร่วมหลับนอนกัน เมื่อได้ฟังจากคำรับจากปากบุตรสาว ผู้ปกครองจึงรีบเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย     หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ผู้ปกครองเดินทางไปส่งบุตรสาวที่โรงเรียนตามปกติ แต่ทราบภายหลังว่า ผู้ต้องหาได้นำพาลูกสาวหลบหนีไปตั้งแต่เวลา 09.00 น. จากนั้นผู้ปกครองพยายามตามหาแต่ไม่มีวี่แววใดๆเป็นเวลากว่า 5 เดือน จึงได้ขอความช่วยเหลือสืบนครบาล    

โดยสืบนครบาลทราบว่าผู้ต้องหารายนี้กบดานในพื้นที่ ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพ ทำงานในตำแหน่งคนงานก่อสร้าง จึงได้นำกำลังไปจับกุม เมื่อไปถึง นายชาญชัยเกิดไหวตัววิ่งหลบหนี เจ้าหน้าจึงได้วิ่งหลบหนี   มีพ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ อีก 5 เดือนเกษียณนำทีมสืบวิ่ง 200 เมตรจนกระทั่งจับตัวได้ทัน จึงได้แสดงหมายจับให้ นายชาญชัย หรือเฟรม อายุ 24 ปี ทราบว่าต้องถูกจับกุม ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 2/2567 ลงวันที่ 4 มกราคม 2567 

จากการตรวจสอบระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม ด้วยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการหลบหนี-วิ่งหนีซึ่งหน้า ขณะเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จึงเข้าตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ โดยผู้ต้องหาให้การยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบ ปืนปากกา 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาด .38  จำนวน 4 นัด โดยจับกุมได้ที่ บริเวณภายในสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาล ฝั่งขวาเลียบมอเตอร์เวย์ ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

จากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การว่าเมื่อช่วงเดือน มีนาคม 2566 ตนได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จากนั้นได้พบเจอกับเด็กสาว จากนั้นตนแอบคบหาโดยที่ไม่ให้ผู้ปกครองของเด็กสาวทราบ ระหว่างคบหาแบบหลบๆซ่อนๆ เด็กสาวดังกล่าวเรียนหนังสือ อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ซึ่งผู้ต้องหาให้การ”รับสารภาพ“ ว่า ตนไปมาหาสู่รับส่งระหว่างโรงเรียน มาห้องเช่าของตนเองจริง โดยต่อมาพ่อแม่ของเด็กสาวเริ่มจับได้ถึงความสัมพันธ์ จึงได้พาเด็กสาวหลบหนีไปอยู่ที่อื่นและหางานทำสร้างตัวด้วยกัน จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาเเละของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ฉลองกรุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบในที่จับกุม ยังพบเด็กสาวที่พ่อแม่กำลังตามหา จึงได้พาน้องไปที่โรงพักและติดต่อให้ผู้ปกครองมารับตัวน้องกลับไป

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลานของท่าน  พยายามทำความเข้าใจกับตัวเด็ก และขอเตือนชายหัวงูนิยมหลอกเด็ก มีความผิด และโทษทางกฏหมาย และยังผิดศีลธรรมอีกด้วยหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.