เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พ.ค.67 ที่สำนักงาน สพป.ขอนแก่น เขต 1 นายอารยันต์ แสงนิกุล ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องกรณีที่ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ภ.4 เข้าทำการจับกุมรองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัด สพป.ขก. เขต 1 ซึ่งมีพฤติกรรมเรียกรับเงิน เพื่อให้นักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียน โดยจับกุมตัวได้พร้อมเงินสด และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 149 เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ กับมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง และลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด รวมทั้งประสานข้อมูลร่วม ปปช.เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง
"ซึ่งตามเอกสาร หลักฐาน พบว่ามีมูลความผิดตามที่ ป.ป.ช.ระบุ โดย ป.ป.ช.จึงแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ตั้งขึ้นมานั้นมีความเห็นว่า กรณีดังกล่าว มีมูลตามพยานหลักฐานจากกระบวนการการดำเนินการของ ป.ป.ช. ซึ่งเชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง และขณะนี้ สพป.ขอนแก่น เขต 1ได้ออกคำสั่งพักราชการ ผู้ถูกกล่าวหา พร้อมกับได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่เมื่อมีการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง จึงสั่งให้พักราชการ ห้ามปฏิบัติหน้าที่ และไม่ได้รับเงินเดือน ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด"
ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 กล่าวอีกว่า การรับนักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 150 โรงเรียน ที่ผ่านมา สพป.ขอนแก่น เขต 1 เข้มงวดมาตลอดให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามกฏระเบียบที่กระทรวงกำหนดเท่านั้น ทั้งยังคงได้เชิญ ป.ป.ช.และ สตง.มาให้ความรู้ และห้ามรับเงินจากผู้ปกครองนักเรียนเป็นอันขาด แต่ก็ยังมีข้าราชการอย่างรองผู้อำนวยการฯรายนี้ที่ กล้าทำ กล้าเรียกรับ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกิดจากการกระทำส่วนตัว
"การที่มีผู้ปกครองออกมาบอกว่า มีนักเรียนมามอบตัวและย้ายเข้ามาในโรงเรียนดังกล่าวประมาณ 100 กว่าราย และมีการจ่ายเงินเช่นเดียวกัน แต่จ่ายในจำนวนที่ไม่เท่ากันกว่า 70 รายนั้น ก็ต้องให้คณะกรรมการตรวจสืบสวนข้อเท็จจริงทำการตรวจสอบว่า มีการจ่ายเงินจริงหรือไม่ และใครมีส่วนรับเงิน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดมีการรายงานไปยัง สพฐ.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว"