กรณี ดร. สาวรายหนึ่งก่อเหตุเมาแล้วขับ ภายหลังถูกด่านตร.ตรวจวัดแอลกอฮอล์ มีเหตุชุลมุนถีบยอดหน้ารองผกก.จร. ต่อมามีการปล่อยข่าวว่าเจ้าตัวเคยถูกจับเมาแล้วขับในเดือนส.ค. ปี 65 มาก่อน จนข่าวดังกล่าวกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 1 พ.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ ดร.เหมียว มนธ์สินี สาว รายดังกล่าววันนี้เปิดหน้าสู้กันไปเลย มาพร้อม ทนายเฉลิมศักดิ์ กาญจนศิราธิป ที่ปรึกษาทางกฎหมาย
ไม่ใส่แมสก์ ไม่ใส่แว่น ไม่ใส่หมวก?
เหมียว : ไม่เป็นไรค่ะ ก่อนอื่นแก้นิดนึงนะคะเหมียวไม่ใช่ซีอีโอนะคะ จริงๆ เหมียวเป็นพนักงานคนหนึ่ง ไม่เคยบอกด้วยว่าเป็นซีอีโอ บางทีสื่อเสนออะไรไปก็ต้องทบทวนอีกทีว่ามันใช่หรือเปล่า เหมียวเป็นพนักงานบริษัทเอกชนค่ะ
ตำแหน่งคืออะไร?
เหมียว : เป็นบริหารกลุ่มองค์กรภาครัฐ กลุ่มลูกค้าที่เป็นภาครัฐ ห่างไกลซีอีโอค่ะ ไม่ใช่ผู้ระดับสูง เป็นพนักงานธรรมดา ที่มีหน้าที่ต้องดูแลกลุ่มลูกค้ากลุ่มนึงแค่นั้นเองค่ะ
ไม่กลัวโดนสังคมด่าเหรอมาออกโหนกระแส?
เหมียว : โดนไปแล้วไงคะ ส่วนหนึ่งที่เหมียวไม่ได้ใส่แมสก์ เพราะเหมียวคิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักตัวเหมียวเลย วันนี้น่าจะได้รู้จักเหมียว เหมียวไม่ได้ปกปิดอยู่แล้ว สิ่งที่เหมียวทำผิดก็บอกตลอดว่าเหมียวยอมรับในสิ่งที่ผิด ที่เหมียวดื่มเกินปริมาณ แต่อย่างอื่นเหมียวว่ามีหลายอย่างที่คนยังไม่รู้ และมีประเด็นที่เรารู้สึกว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นข่าวที่เสนอด้านนึงด้วยที่ทำให้คนเข้าใจเราผิด ก็เลยคิดว่าไม่ต้องใส่แมสก์หรอก คนจะได้รู้จักจริงๆ ว่าเราเป็นยังไง ถ้าไม่พอใจก็เข้ามาด่าได้ค่ะ
ธรรมดาเป็นคนดื่มสังสรรค์เหรอ?
เหมียว : ไม่เลยค่ะ เหมียวไม่ใช่ปาร์ตี้เกิร์ลนะคะ คนทำงานแบบเหมียว ทำงานเสร็จปุ๊บ จะมีช่วงเวลาเรารับประทานอาหารเย็นกับคนที่อยู่ในกลุ่มการทำงานของเรา อาจเป็นพาร์ตเนอร์ ลูกค้า ลูกค้าในอนาคต แต่มันเป็นการงาน ไม่ใช่ปาร์ตี้หรือไปคลับ ไม่ไปคลับตั้งนานแล้ว
วันนั้นวันที่เท่าไหร่?
เหมียว : คืนที่ 23 ตอนเกิดเหตุคือเที่ยงคืน วันนั้นมีดินเนอร์ปกติ แต่วันนั้นค่อนข้างลากยาว เพราะมีหลายวาระที่ต้องคุยกัน ก็ไปเรื่อยๆ ค่ะ
จากนั้นเป็นยังไง?
เหมียว : ประมาณเที่ยงคืนครึ่งเข้าวันที่ 24 ถูกด่านที่อยู่แถวบ้านตรวจ เราก็เป่าตามปกติ วัดได้ 104 ก็ลงมาคุยกับตร.ข้างล่าง เราก็ลงตามปกติ เขาบอกปริมาณเกินนะ เรายินดีเป่าทันที ให้เป่าก็เป่าค่ะ เป่าครั้งแรก ประมาณ 108 แต่ลงมาอีกรอบเป็น 104 อันนี้คือครั้งที่ออกข่าว วันนั้นเขาเป่าสองครั้งค่ะ
เราไม่ต้องพูดว่าเมาหรือไม่เมา อันดับแรกกฎหมายกำหนดว่าห้ามมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่คุณขึ้นไปถึง 108 ในครั้งแรก และ 104 ในครั้งที่สอง มันเกินอยู่แล้ว แค่นี้คุณโดนแน่นอน เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?
เหมียว : พอเขาบอกว่าเกิน เราก็ถามว่าต้องทำยังไงคะ เขาก็ชี้มือไปที่ด้านซ้ายของด่าน บอกให้ไปตรงโน้น เรามองตามไปประมาณสิบเมตรจากตรงนั้น เป็นผู้ชายสองคนนั่งอยู่ เราก็เดินไปตรงที่เขาชี้ มีมอเตอร์ไซค์คันนึงจอดอยู่ ตอนนั้นด้วยเรากลัวด้วย แล้วมีแต่ผู้ชาย มันดึกแล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียว เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรากลัว เขาให้ทำอะไรเราก็ทำ เราไปตรงนั้นแล้วเห็นผู้ชายสองคน ก็เข้าใจว่าเขาจะพาเราไปที่อื่นเพราะเห็นมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ตรงนั้น
เห็นมั้ยเขาแต่งชุดยังไง?
เหมียว : ไม่ได้แต่งเครื่องแบบค่ะ
เซ้นส์เราตร.หรือเปล่า?
เหมียว : ไม่ได้คิดว่าเป็นตร. แต่ไม่รู้เขาคือใครค่ะ เราก็งงว่าตร.ให้ไปหาสองคนนี้ทำไม แต่เหมียวเข้าใจว่าเขาจะพาเหมียวไปไหน ก็เลยถามเขาว่าจะพาพี่ไปไหน เหมียวก็งง
งงหรือเมา?
เหมียว : ไม่เมาค่ะ เหมียวดื่มมาเกินปริมาณคือใช่ แต่เหมียวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นมีแต่ความงงมากกว่า
คุณเดินกลับมาหาตร. เขาว่าไง?
เหมียว : เหมียวก็ถามว่าจะให้พี่ไปไหน เหมือนมอเตอร์ไซค์เขาไม่รู้ว่าพี่ต้องไปไหน ตร.บอกว่าไปสน.เลย เชิญไปสน. มีความผิด เราก็งงสิคะ แล้วเมื่อกี้คืออะไร เราทำตามที่เขาบอกหมดเลย เราไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย ในโมเมนต์นั้น ตอนเหมียวเดินกลับมา เขาบอกให้ไปสน.อย่างเดียว เหมียวก็เอะใจนิดนึง แล้วเหลือบเห็นตรงโต๊ะนั้นมีป้ายว่าห้ามถ่ายคลิป เหมียวรู้สึกแปลกๆ แต่เราอาจคิดไปเองก็ได้ แล้วมีทางเลือกเดียวต้องไปสน. บางทีเลี่ยงไม่ได้ เรากลับบ้านดึกก็คิดถึงแต่ลูกอย่างเดียว ทำยังไงก็ได้ให้มันจบ เหมียวพยายามขอคำตอบเขา ว่าให้เดินไปทำไม เหมียวเหลือบไปเห็นป้ายห้ามถ่ายคลิปเลย ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพราะรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ถ้าเหมียวถือโทรศัพท์มันก็ไปท้าทายเขา ส่วนหนึ่งก็รู้สึกไม่ปกติ ตร.ที่อยู่ตรงนั้น เวลาทำงานกับประชาชน เหมียวรู้ว่าประชาชนมีสิทธิ์ตรวจสอบอยู่แล้ว พอเกิดเรื่องเหมียวมาเห็นป้าย ก็รู้สึกว่าทำไมห้ามถ่ายคลิป เหมียวลองยกมาดูสิ
คุณถ่ายมั้ย?
เหมียว : เหมียวก็ถ่าย
การที่คุณบอกว่าเขาชี้ให้ไปหาผู้ชายสองคน เซ้นส์คุณที่ว่าแปลก มันคืออะไร คุณคิดว่าตร.จะขอเงินคุณ หรือยังไง?
เหมียว : เอาจริงๆ ตอนนั้นคิดว่าเขาจะพาเหมียวไปที่อื่น เพราะเหมียวถามมอเตอร์ไซค์ว่าจะพาไปไหน ณ จุดนั้นไม่ได้คิดเรื่องเขาจะเอาเงิน
คุณยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปหน้าโต๊ะเขาห้ามถ่าย ในคลิปคุณพยายามถามตร.ว่าทำไมให้เดินไปหาตร.ตรงโน้น แต่เขาบอกให้ไปสน.อย่างเดียว?
เหมียว : เหมียวอยากให้เห็นด้วยว่าคลิปที่ตร.เผยออกมา สิบกว่านาที เป็นตอนหลังจากที่เขาจะพาเหมียวไปสน.แล้ว หลังจากจะเริ่มจับกุม แต่ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ยาวมาก จะบอกว่าเหมียวใช้เวลาอยู่ที่ด่านนี้เกือบ 40 นาทีแต่คลิปที่ตร.ปล่อยออกมา มีแค่ 10 นาที ตอนเหมียวเริ่มไม่ไป แต่ก่อนหน้านั้นเหมียวคืนอยู่นานมาก ยอมรับการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้สมองเราช้าด้วย เราคิดไม่ทัน เราทำอะไรผิด
เหตุการณ์บานปลายเพราะคุณไม่ไปสน.?
เหมียว : เหมียวไม่ไป แต่เหมียวไม่ได้ขัดขืนนะคะ
คุณถีบคางเขา?
เหมียว : มีที่มาที่ไปค่ะ
คุณบอกไม่ใช่ซีอีโอ เป็นพนักงานบริษัท ลาออกนานหรือยัง?
เหมียว : ลาออกเมื่อต้นปี แต่มีผลเดือนเม.ย. ต้องสะสางงาน ก็ให้โนติส มีผลเดือนเม.ย. ตอนที่เหมียวถ่ายคลิปเพราะอยากดูรีแอ็กเขาว่าเป็นยังไง พอหยิบถ่ายทางรองผกก.คู่กรณีเหมียวเขายืนอยู่ข้างหลัง ผู้หมวดที่ให้เหมียวเป่ายืนอยู่ข้างหน้า เหมียวก็ถ่ายรอบๆ แล้วเหมียวเห็นรองผกก. เขาส่งสายตาให้หมวดนิดนึง เหมียวก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่รองผกก.บอกว่าถ่ายได้ครับ ถ่ายเลย แต่มีการส่งสายตาอยู่
จะบอกเขาส่งซิกส์?
เหมียว : เรารู้สึกเองนะคะ ไม่ได้กล่าวหา
คุณพูดกำกวมเพราะกลัวโดนฟ้องเหมือนกัน?
เหมียว : เหมียวเข้าใจว่าตร.ต้องมีบทบาท มีสคริปต์ของเขาอยู่แล้ว เจอแบบนี้เขารู้อยู่แล้วว่าต้องพูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็ใช้บทนั้นเลย ใช้บทตร.ที่พยายามไกล่เกลี่ย พูดดีกับเรา เรารู้สึกเขามีสคริปต์อยู่ เหมียวคิดว่าการทำแบบนี้ไม่ดีสำหรับตัวเหมียว ก็เก็บโทรศัพท์ไป ก็อย่างที่เห็น เหมียวทำเป็นเก็บโทรศัพท์แล้ว แต่ยังเปิดอัดไว้อยู่ อยู่ตรงนั้นนานเกือบ 10 นาที พยายามหาคำตอบ คิดว่าถ้าเก็บโทรศัพท์น่าจะได้คำตอบมากกว่านี้ อาจทำให้เขาพอใจ ก็พยายามถามคำถามเดิมๆ ก็อยู่จนกว่าจะได้คำตอบ สักพักมีคนอื่นเข้ามา เหมียวรู้สึกว่าเขาให้เหมียวออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ไม่รู้เหมียวพูดอะไรผิดหรือเปล่า ไม่แน่ใจเจตนา แต่เหมือนเขาพยายามให้เหมียวออกไป เขาคุยกับเหมียว บอกถ่ายได้ครับ แต่ตาเขามองไปทางตร.คนนั้น
แต่ก็บอกอะไรไม่ได้ ไม่ได้เข้าข้างตร.?
เหมียว : เหมียวอาจคิดไปเองไงคะ (หัวเราะ) หลังจากนั้นเขาก็พยายามจับกุม เขาพยายามให้เหมียวออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่เราไม่ได้สู้อะไรเขาเลย อย่างที่บอกเหมียวกลัว รู้สึกไม่ปลอดภัย ยังไงไม่รู้ แปลกๆ แล้วตอนจับกุมเหมียวจะไม่ไปไหน จะอยู่ตรงนี้ จนกว่าจะตอบพี่ว่ามันคืออะไร ต้องอธิบาย เราก็ดื้อด้วย
คุณแค่ต้องการฟังว่าให้ไปตรงนั้นทำไม แล้วไม่ได้รับคำตอบ จากนั้นเป็นยังไงต่อ?
เหมียว : พอเหมียวบอกไม่ไป จะอยู่ตรงนี้ มีคนนึงมาล็อกแขนเหมียวแรงมาก ถ้าเห็นจากคลิปตร.จะเห็นว่าเหมียวร้องเจ็บ ถ้าคนเจอแบบเหมียวแล้วไม่งงคงแปลก เหมียวพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเหมียวไม่ได้คำตอบ ทำไมพูดตามบทของเขา
คุณจะบอกว่าจริงๆ แล้วลักษณะเหมือนว่าเขาน่าจะมีการขอเงินคุณตั้งแต่แรก ตอนที่มีรถมอเตอร์ไซค์ แต่คุณไม่ได้ให้?
เหมียว : ไม่ได้คิดเรื่องขอเงินเลยนะคะ แว้บแรกคิดว่าเขาจะพาเหมียวไปที่อื่น ตอนหลังที่ยืนนิ่งๆ ก็คิดแบบนั้น
พอเขาเห็นคุณถ่าย เขาก็คิดว่าเรียกเงินคุณไม่ได้แล้ว ก็ต้องเอาตัวคุณไปให้ได้ แต่คุณก็คิดว่าไม่ได้ ต้องให้คำตอบคุณให้ได้ ว่าให้ไปตรงนั้นทำไม แต่สุดท้ายเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ต้องไปอยู่ดี เราปฏิเสธไม่ได้ ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดแน่นอน พอขึ้นรถเกิดอะไรขึ้น?
เหมียว : เหมียวอยากทราบว่าต้องทำแรงขนาดนั้น เหมียวเจ็บค่ะ
เฉลิมศักดิ์ : น่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่หญิงอยู่บ้างหรือเปล่า เพื่อให้จับกุมกรณีเมาแล้วขับ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ของสุภาพสตรี จะได้ละมุนละม่อมมากกว่านี้
จะบอกว่าเขาเป็นผู้หญิงคนเดียว ตร.สามสี่นายจับตัวไป คนเดียวก็ได้?
เฉลิมศักดิ์ : ใช่ พูดให้ละมุนละม่อม มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาร่วมด้วยหรือเปล่า จะได้ไม่บานปลายขนาดนี้
ขึ้นไปบนรถแล้วยังไง?
เหมียว : เราเจ็บตอนเอาเราขึ้นแล้ว ใครไม่รู้มาแตะตัวเราด้วย มันหลายมือมาก ไม่โอเคกับคนกลุ่มนี้เลย ถูกผลักให้ขึ้นเบาะหลัง ซึ่งที่ไม่ได้เยอะมาก คู่กรณีก็ตามเข้ามา เขาเอาหัวเราเข้าไปก่อน รวบเท้าเราไว้ เหมือนล็อกเอาไว้ ตัวเราอยู่เอียง เพราะเท้าอยู่บนเบาะ ตอนนั้นรู้สึกว่าเราต้องปกป้องตัวเอง เราไม่โอเคกับตร.ชุดนี้ แล้วมีอะไรที่เราไม่เคลียร์ด้วย ตอนนั้นสิ่งที่คิดได้คือดิ้นให้หลุดจากล็อกเขา คือเหมียวเคยเป็นโควิด หลังจากโควิดเหมียวมีปัญหาเรื่องหายใจ เหมียวจะหอบ หายใจไม่ปกติ
บางมุมดูไม่แถไปหน่อยเหรอ สีข้างพังไปนิดนึงมั้ย ไม่ว่ากันนะ คนดูคิดอย่างนั้นก็ได้?
เหมียว : เข้าใจค่ะ คนที่ไม่อยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆ อาจมองอย่างนั้น ยิ่งก่อนหน้านี้มีคลิปด้านเดียวออกมา ก็สร้างความรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พอเหมียวออกมาพูดก็เลยดูเหมือนแถ เพราะเขาได้ข้อมูลไปส่วนนึงแล้ว เหมียวเข้าใจ แต่เหมียวอยู่ตรงจุดนั้นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง คิดถึงตอนนั้นตอนนี้ก็ยังอึดอัดอยู่เลย
แต่คุณผิดอยู่แล้ว มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด เขาเชิญตัวคุณไปโรงพักก็ไม่ไปเพราะคุณติดใจอยู่แค่นิดเดียวว่าทำไมต้องให้เดินไปหารถคนนั้น เหมือนคุณไม่อยากโดนด่าคนเดียว ตร.ก็ต้องโดนด้วย?
เหมียว : เหมียวไม่ได้สนใจว่าใครจะโดนด่า ถ้าเหมียวสนใจ เหมียวออกมาพูดตั้งแต่วันแรกแล้ว เหมียวเงียบหลายวันมาก เพราะมีเหตุการณ์หลังจากนั้นหลายอย่างมาก เหมียวว่าสังคมต้องรู้ข้อเท็จจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
รวมถึงปี 65 ที่เคยมีข่าวว่าคุณเมาแล้วขับ คุณจะอ้างว่าไม่ได้ถูกจับ มีการเอาแอลกอฮอล์พ่นตัวและพ่นที่เป่าเลยมีแอลกฮอล์โผล่ขึ้นไปทั้งที่ไมได้ดื่มเหล้า คุณให้ข่าวแบบนั้น?
เหมียว : ไม่ได้ให้ข่าว อันนั้นอยู่ในชั้นสอบสวน และจบไปแล้วด้วย มีการส่งหลักฐานไปพิสูจน์ พนักงานสอบสวนโทรมาว่าไม่ต้องไปแล้ว มันเรียบร้อยแล้ว
มูลนิธิเมาไม่ขับ บอกว่าจะเอาผิดคุณเหมือนกัน เพราะเขาเช็กแล้วว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ ในปี 65 เผลอๆ ครั้งนั้นกับครั้งนี้รวมกันอาจถึงขั้นติดคุก?
เฉลิมศักดิ์ : ไม่ใช่อย่างนั้น ปี 65 ทำไมตร.ไม่สั่งฟ้องตั้งแต่ 48 ชม. ถ้าสรุปสำนวนไม่ได้ คุณต้องขอผัดฟ้องหรือฝากขัง ระหว่างนี้ก็ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ พนักงานมีคนเดียวหรือเปล่า สน. นั้น พอเขาย้ายไปก็ไม่มีใครทำสำนวนต่อ
เรื่องนี้มัน 5 ปี?
เฉลิมศักดิ์ : ใช่ มันมีอายุความของมันอยู่ เพียงแต่ว่าคดีพวกนี้เป็นคดีโทษไม่สูงหรอก ปรับก็ 5 พันถึง 2 หมื่น ถ้าหากจับกุมได้แล้วผู้กระทำความผิดสารภาพอะไรก็แล้วแต่ ต้องฟ้องภายใน 48 ชม. ณ ตอนนั้น แต่ถ้าหากสรุปสำนวนไม่ได้ส่งอัยการก็ต้องผัดฟ้องหรือฝากขัง เป็นขั้นตอนทั่วไป
จะบอกว่าตร.หละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่?
เฉลิมศักดิ์ : ตอนนั้นผมไม่ทราบขั้นตอน เพราะตร.ถูกย้ายไปแล้ว ไม่มีใครรับต่อหรืออย่างไร
หลังจากตร.พาเข้ารถไป เป็นยังไง?
เหมียว : มีการปะทะกัน อย่างเหมียวตัวเอียง ถูกล็อกขาอยู่บนเบาะ เราหายใจไม่ค่อยออก เรามีการจับตอนโดนจับเข้ามา เราไม่โอเค เราอึดอัดเรื่องหายใจ เราก็พยายามดิ้นๆ สุดแรงเกิดให้หลุดจากล็อกเขา อยากให้เห็นว่าเราสู้เขานะ มันไม่ไหวแล้ว เหมือนโดนรุมเลยค่ะ
คุณถีบกระโดงคางเขามั้ย?
เหมียว : ถีบเพื่อให้หลุดจากล็อก แต่ไม่ได้ตั้งใจถีบ ไม่ได้เจตนา
แต่ตร.บอกคุณบอกเขาเองว่าถีบไปแล้วหนึ่งที?
เหมียว : ตอนที่พยายามดิ้นตัวหลุดจากล็อก หลังจากนั้นดิ้นปุ๊บเหมียวถีบไปโดนเขา มันชุลมุน เหมียวก็โดนของแข็งบางอย่างเหมือนกัน โดนของแข็งกระแทก มีหลักฐาน มีรับรองแพทย์ด้วย ถ้าสังเกตก่อนขึ้นรถจะมีนายตร.คนนึงเหมือนเป็นลูกน้องรองผกก. เขาพยายามบีบแขนเรา พยายามล็อกเรา เขาเสียงดังตลอดทางอยู่แล้ว ที่เหมียวพูดไม่ดีออกไป มีเสียงตะโกนจากตร.ด้วย
พ.ต.ท.ดาราธร ก็ยืนยันว่าถูกคุณถีบหน้าจริงๆ ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ เขาบอกว่าคุณด่าเขาชั้นต่ำ?
เหมียว : เหมือนตรงนี้หายไปเยอะเลย เขาสวนเรายังไง เขาทำยังไง ไม่ได้พูดถึงเลย
เขาสวนคุณด้วยเหรอ?
เหมียว : ไม่งั้นจะมีใบรับรองแพทย์เหรอคะ
เจอในชั้นศาล?
เหมียว : ใช่ค่ะ
มีหลักฐานแน่นอน จะบอกว่าคุณไม่ได้โดนฝ่ายเดียว?
เหมียว : ค่ะ เรื่องดื่มเกินปริมาณก็ผิดแน่นอนอยู่แล้วค่ะ
ที่อยากพูด อยากบอกว่าคุณก็โดนกระทำโดยมิชอบเหมือนกันกับตร.?
เหมียว : จริงๆ ตลอดทางในรถ บ่น ว่าเขามาตลอด
ว่าหรือด่า?
เหมียว : บ่นมากกว่าค่ะ (หัวเราะ) บ่นเรื่องไม่เคลียร์ เรื่องการกระทำของเขา ไม่ได้บ่นคนเดียวนะคะ มีการโต้เถียงกับเขาด้วย ตัวเขาก็ยอมรับว่าทำอะไรกับเรา มีหลักฐานค่ะ แต่เปิดไม่ได้ เขาก็ยอมรับค่ะ มีวาทกรรมก่อนหน้านั้น พอลงจากรถ มีลูกน้องคนนึงตะโกนๆ อยู่ เหมียวก็เลยบอกเขาไปว่าชั้นต่ำ คือไม่ไหวแล้ว
เปิดคลิป คุณไม่ได้บ่นนะ คุณด่า?
เหมียว : ชั้นต่ำเป็นเรื่องพฤติกรรมที่แสดงกับอีกบุคคล เขาตะโกนเสียงมาตลอด ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ และบีบล็อกเรา
จะบอกว่าเอาคลิปมาเปิดสิ จะได้เห็นพฤติกรรมเขามากกว่านี้เหรอ?
เหมียว : ตอนรวบก็ไม่เห็นแล้วนะคะ กล้องตรงนั้นหายไป
ที่คุณด่าชั้นต่ำ ใครถ่าย?
เหมียว : กล้องเขา มันตัดมากล้องนี้เลยค่ะ ตอนรวบ คลิปที่ออกจากสื่อโซเชียล มีการรวบตัว และไม่เห็นรายละเอียด มาเห็นอีกทีตัดมาอยู่ที่สน.เลย
จะบอกว่าเขาตัดคลิปมาในมุมที่เขาได้เปรียบ?
เหมียว : ในความรู้สึกเรานะคะ
เฉลิมศักดิ์ : โดยปกติการจับกุมผู้ต้องหาและตรวจค้น โดยพรบ.ป้องกันและปราบปรามอุ้มหายก็ต้องมีการถ่ายคลิปอยู่ตลอดเวลาในการจับกุม แต่ไม่ทราบทางคุณเหมียวเห็นว่าเขามีคลิปบางส่วนด้านเดียวมาเสนอต่อสื่อ คิดว่าน่าจะเผยแพร่ให้ยาวกว่านี้ จะได้เห็นว่าอะไรคืออะไร สังคมจะได้ตัดสินได้
ตอนนี้เขาบอกคุณเหมียวเป็นคนผิด?
เหมียว : พอเหมียวประกันตัว วันนั้นจบที่เวลาเกือบตี 3 ของเช้าวันพุธ เหมียวได้กลับบ้าน วันนั้นศาลนัดพฤหัสบดีเช้า วันพุธทั้งวันเหมียวต้องมีเวลาของเหมียวจนกว่าไปเจอศาลอีกวันนึง แต่วันพุธตอนบ่ายโมง 11 นาที พนักงานสอบสวนโทรหาเหมียวให้เข้าไปสน.ณ ตอนนั้นเลย ตอนนี้เหมียวไม่อยากยุ่งกับคนกลุ่มนี้เลย เขาบอกให้เข้าไป มีผู้ใหญ่ที่สน.อยากคุยด้วย เหมียวบอกเหมียวไปไม่ได้ เหมียวติดงาน แล้วเขาโทรมาตอนสามทุ่ม เหมียวก็บอกว่าประชุมอยู่ยังไปไม่ได้ เขาก็โอเค เป็นพฤหัสบดีเช้าก็ได้ เขาเป็นคนเลื่อนศาลเองด้วยนะคะ ไม่ใช่เหมียวเลื่อน จริงๆ เหมียวตั้งใจไปศาลอยู่แล้ว เหมียวไปถึงพฤหัสฯ เช้า ตอนเก้าโมง เหมียวไปคนเดียว ในห้องนั้นมีพนักงานสอบสวน มีผกก.สน. รองผกก.สน. และมีตร.อีกท่าน มียศพ.ต.อ. อยู่ในนั้น 4 คนกับเหมียวคนเดียว ใช้เวลาเกือบชม.อยู่ในห้องนั้น มีการซักถามเหมียว แต่ไม่ได้ถามเรื่องคดี ถามเรื่องชายมอเตอร์ไซค์สองคนเป็นหลัก ถามว่านั่งอยู่ตรงไหนห่างจากด่านแค่ไหน เขาแต่งตัวอย่างไร มียศตำรวจหรือไม่ เขาพูดอะไรกับเราบ้าง เราพูดอะไรกับเขา หลังจากนั้นมีบทสรุปออกมา ผู้ใหญ่แนะนำให้ไปเคลียร์กับคู่กรณี เพราะไม่ได้ทำร้ายอะไรกันมากมาย เพราะเจ็บกันทั้งคู่ เหมียวก็โอเค ขอเบอร์เดี๋ยวไปเคลียร์ เหมียวออกมาจากห้องนั้นแล้วไม่มีการพูดอะไรอีก ออกจากห้องนี้บ่าย ตอนเย็นเป็นข่าว ซึ่งเนื้อหาในข่าวเป็นเนื้อหาเดียวกับอยู่ในรายงานการจับกุม
จะบอกว่าตร.ส่งข่าว?
เหมียว : ใช่ค่ะ แล้วมีคดีปี 65 จงใจอยู่ในข่าวนั้นด้วย มีเรื่องว่าเหมียวทำงานอยู่ที่ไหนอยู่ในข่าวด้วย รุ่งขึ้นเหมียวก็เริ่มไม่สบายใจแล้ว เหมียวก็เลยโทรไปหาผกก.สน. เข้าใจว่าในห้องนั้นที่คุยกันน่าจะโอเคแล้ว เขาบอกว่าสื่ออาจเห็นรายงานเป็นเรื่องปกติ ไม่อยากให้ติดใจ หลังจากนั้นเหมียวโทรหาคู่กรณี เพราะผู้ใหญ่แนะนำให้เคลียร์กับคู่กรณี เพราะไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เหมียวโทรหาคู่กรณี 10.28 น. วันศุกร์ เพื่อพูดคุยและขอโทษ เขาไม่ได้รับสาย แต่เขาโทรมาหาเหมียวหลังจากนั้น 2 ชม. เราก็ขอโทษ พูดปกติ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย เข้าใจทุกอย่าง ไม่ติดใจอะไรเลย เราก็คิดว่าเขาไม่มีอะไรแล้วน่าจะเคลียร์กันได้ หลังจากนั้น 2 ชม.ให้หลัง เหมียวโทรกลับไปหาเขาอีก บอกว่าท่านรอง มีสื่อมาถามเหมียวว่าเหมียวได้เคลียร์คู่กรณีหรือยัง ถ้าเราไม่มีอะไร เหมียวบอกสื่อได้มั้ยว่าคุยกับท่านแล้ว เขาบอกไม่ได้ อย่าบอกคนอื่นว่าเราคุยกัน เหมียวก็อ้าว เหรอคะ สื่ออยากรู้ว่าเราไปขอโทษคู่กรณีหรือเปล่า แต่ทางตร.ไม่ให้บอก เราก็ไม่ได้ถามอะไรเยอะ ก็เคารพการตัดสินใจของเขา เขาอาจมีเหตุผล แล้วก็บอกว่างั้นปี 65 ขอบอกสื่อได้มั้ยว่ามันไม่จริง เหมียวไม่เคยโดนดำเนินคดีพิพากษาตามที่เป็นข่าว เขาบอกโอเค ประเด็นนั้นพูดได้ คุยกับเขาไม่นาน 10 นาที เพื่อนส่งคลิปมาให้เต็มเลย เริ่มมีการปล่อยคลิปออกมา มันเป็นคลิปจากจราจรกลาง เหมียวรีบโทรหาเขาอีกรอบนึง เป็นการโทรครั้งที่สาม ถามว่าปล่อยคลิปทำไม อย่าบอกว่าคนอื่นปล่อยนะ เขาบอกเขาส่งคลิปให้ทางสน. น่าจะเป็นพนักงานสอบสวน ลองไปเช็กทางโน้นดู เขาพูดกับเหมียวว่าเขาไม่ชอบออกสื่อ หน้าเขาอยู่ในคลิปเขาไม่ชอบหรอก เหมียวก็เริ่มงงๆ แล้ว เวลาเขาออกสื่อเขาให้สัมภาษณ์ตลอด และตั้งโต๊ะแถลงด้วย เขาบอกเขาไม่ได้เป็นคนทำ เหมียวก็เริ่มสับสนในท่าทีตร. ไม่รู้จะวางตัวยังไง เหมียวทำตามที่ผู้ใหญ่บอกให้ขอโทษ แล้วเหมียวพยายามประนีประนอมกับทางนี้ ถ้าพูดไปจะต่อความยาวสาวความยืด มันไม่ดี แล้วเหตุการณ์นี้ก็สอนให้เหมียวไม่พูดด้วย เพราะคืนนั้นเหมียวพูดเยอะแล้วทำให้เหมียวเดือดร้อน เหมียวก็เลยไม่พูดค่ะ หลังจากนั้นอีกวันนึงคู่กรณีบอกเหมียวว่าจะไปนั่งตอนสอบปากคำด้วย ให้คนอื่นเห็นว่าเขายอมลงแล้ว เลยมีการนัดสอบปากคำวันเสาร์ตอนกลางคืน เพราะทุกคนอยากให้จบ ทั้งที่ทนายไม่ว่าง ก่อนให้ปากคำ เหมียวให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรก ขอโทษทุกอย่าง ขอโทษทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นเหมียวเข้าห้องสอบสวน มันไม่ได้เป็นอย่างที่เหมียวคิด มีพนักงานสอบสวนคนเดียว คู่กรณีก็ไม่ได้มา ผกก.ก็ไม่ได้อยู่ แถมเหมียวโดนแจ้งข้อหาเพิ่มคือข้อที่สี่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เหมียวก็สับสนว่ากำลังดีลกับอะไรอยู่ กำลังสู้กับอะไรอยู่ ล่าสุดโทรกลับมาว่าจะมีการรื้อคดีปี 65 เหมียวรู้สึกว่ามีใครพยายามดิสเครดิตเหมียวอยู่ ตั้งแต่มีการนำเสนอด้านเดียว
ปี 65 ตกลงมีคดีมั้ย?
เหมียว : มีการกล่าวหา มีการสอบสวนและจบตรงนั้น ตอนนั้นมีช่วงโควิด เหมียวพกสเปรย์ติดต่อตลอด ก็ไม่ได้ดริ๊งค์ ร้านปิดอยู่แล้ว ปกติเหมียวพกขวดเล็ก เหมียวก็จะฉีดทุกอย่าง เพราะมีลูกด้วย กลัวเชื้อโรคมาก ค่อนข้างระวังมาก ตอนนั้นก็โดนด่าน ตั้งแต่อยู่มา 5 ปี ด่านนี้เห็นเป็นปกติ ด่านมีการยื่นหลอดให้เป่า เหมียวเอาอันนี้ฉีดก่อนไปสองปิ๊ด แล้วเป่าเข้าไป เขาบอกมันเกินนะเกือบๆ 60 ลงไปเป่าอีกทีนึง เหมียวก็บอกเขาแล้วว่าขอฉีดก่อนนะ ไม่เป่าตรงๆ ก็พ่นอีก แล้วขึ้นประมาณ 60 สักอย่าง
69 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์?
เหมียว : ตอนนั้นเหมียวไม่รู้ว่าสเปรย์ตัวนี้มีผลอะไร เหมียวก็ฉีดไปทุกที่ เหมียวก็สงสัยว่าเป็นเพราะสเปรย์ เพราะวันนั้นเหมียวก็ไม่ได้ดื่มอะไรมา วันนั้นเป็นช่วงโควิด ไปร้านอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ตรงด่านเขาบอกต้องส่งให้พนักงานสอบสวนนะ ตามมาตรฐานมันเกิน เราก็ไม่เป็นไร เราก็ไปสน. พอไปสน.พนักงานสอบสวนตอนนั้นก็เล่าตามเหตุการณ์จริงเลย ว่ามีการฉีดสเปรย์ในนั้น เขามีการเอาไปตรวจสอบ เหมียวไม่เห็นผลนะคะ แต่ตอนสอบปากคำมีการใส่ซองน้ำตาล ส่งไปกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้น 2-3 อาทิตย์ เขาโทรกลับมาหาเหมียวบอกว่าไม่ต้องเข้ามาแล้วนะ โอเคแล้ว สรุปก็คือจบแล้ว ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ แต่มีพ่นสเปรย์
“นพ.แท้จริง” อยู่ในสาย ล่าสุดมูลนิธิเมาไม่ขับจะเอาผิดคุณเหมียว?
นพ.แท้จริง : ไม่ได้จะเอาผิดเขา เอาผิดใครไม่ได้ครับ มูลนิธิไม่เคยมีเจตนาร้ายกับใคร แม้แต่ท่านดร.เอง มูลนิธิเจตนารมย์เราคือหยุดคนเมาให้มาขับรถ ถึงบอกคนที่โดนจับว่าคุณโชคดีแล้วนะที่โดนจับ เพราะไม่รู้หรอกถ้าเขาไม่จับแล้วปล่อยคุณไป อาจมีผลร้ายถึงแก่ชีวิตคนอื่นหรือชีวิตคุณเอง ซึ่งมันเอาคืนไม่ได้ สองวันก็เพิ่งเห็นมีชนตร.ตายเลย มีข่าวแบบนี้ทุกวัน อยากให้สังคมได้เรียนรู้ว่าการทำผิดเพราะเมาแล้วขับต้องโดนโทษหนักนะ จะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนคิดว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้เมาหรอก ขับรถได้ มูลนิธิทำไปตามสิ่งที่คิดว่าเราจะเตือนสังคม อยากให้สังคมเห็นว่าการเมาแล้วขับเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ แต่ตอนนี้คนทำอยู่เยอะ เพราะเขาคิดว่าไม่เป็นไรหรอก แม่รอลงอาญา แต่โทษใหม่ที่ออกมา เขาเขียนเลยว่าต้องมีโทษจำและปรับเสมอ
คุณหมอพอจะทราบใช่มั้ยว่ามีเรื่องปี 65?
เหมียว : เมื่อวานเรามีการส่งโนติสไปให้มูลนิธิเมาไม่ขับว่าให้ลบโพสต์ต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริง ใครกล่าวหาว่าเหมียวมีคดี หรืออยู่ระหว่างดำเนินคดี เพราะคุณหมอทำจดหมายเขียนชัดเจนว่าเหมียวอยู่ระหว่างการรอลงอาญา มันไม่ใช่เลย เหมียวไม่เคยถูกพิพากษา ไม่เคยอยู่ในสเต็ปนั้นเลย แล้วในความรู้สึกเหมียว เคสนั้นจบไปตั้งนานแล้ว มีการคอมเฟิร์มจากพนักงานสอบสวนตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่สิ่งที่คุณเขียนเหมือนเหมียวถูกพิพากษาไปแล้ว มันบิดเบือนไปมากเลยค่ะ เราก็เลยยื่นโนติสไป
นพ.แท้จริง : เราเอาข้อมูลมาจากสื่อ สื่อทุกฉบับลงเหมือนกัน
เหมียว : ไม่ใช่ค่ะคุณหมอ สื่อไม่ได้ลงแบบที่คุณหมอลงค่ะ
นพ.แท้จริง : มีครับ สื่อลงว่าคดีรอลงอาญาสองปี
เหมียว : ไม่มีค่ะ เหมียวยื่นโนติสให้คุณหมอแก้ข่าวภายใน 7 วัน ถ้าคุณหมอยังพูดแบบนี้อีก เหมียวจะต้องดำเนินการแล้วนะคะ อุตส่าห์ส่งโนติสให้ก่อนจะได้ไม่ฟ้อง
นพ.แท้จริง : เราเอาเรื่องนี้มาจากสื่อ สื่อทุกฉบับพูดแบบนี้ เราเลยเอาตรงนี้ไปทำหนังสือส่งศาล ว่าถ้ามีแบบนี้จริงก็ขอให้ลงโทษหนัก เพราะกฎหมายใหม่บอกว่าจำคุกและปรับเสมอ นี่คือเจตนาเราอยากบอกให้สังคมรู้ว่าโทษทำซ้ำ เราไปเช็กที่สน.ประเวศเขาบอกคดีนี้มีจริง กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดี เขาบอกอย่างนี้เราก็ต้องเชื่อ
เหมียว : แต่คุณหมอเขียนไปมากกว่านั้น เขียนว่ารอลงอาญา เขียนว่าโดนพิพากษาแล้วรอลงอาญา
นพ.แท้จริง : สื่อลงแบบนั้นจริงๆ
เหมียว : พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้น วันจันทร์ที่ผกก.โทรมาว่าจะนำคดีนี้กลับมา มุมเรา รู้สึกว่าถ้าพนักงานสอบสวนไม่ได้ทำสรุป มันเป็นความผิดของเราหรือเปล่า มันเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่หรือเปล่า เราไม่น่าเข้ามายุ่ง แต่ถ้าทนายบอกว่าเราต้องมา เราก็ยินดีให้ความร่วมมือ
นพ.แท้จริง : ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาร้ายต่อดร.นะครับ แม้แต่ลูกรัฐมนตรีเมาแล้วขับเราก็ยังทำหนังสือส่งท่านนายกฯ เราทำในฐานะพลเมืองดีที่รณรงค์เรื่องนี้มา 30 ปี เรามีเจตนาอย่างนั้นเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อท่านดร. ต่อท่านอื่นผมประชุมกันเสมอ ก็บอกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้สังคมได้เรียนรู้ ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ไม่ตรงความเป็นจริง ก็ขออภัยท่านดร.ผ่านคุณหนุ่ม เราไม่มีเจตนร้าย ไม่ว่าจะดร.หรือใครก็ตาม เรารณรงค์เรื่องนี้เราก็ทำเรื่องนี้ เราก็เอาจากสื่อมาเหมือนกัน สื่อลงอย่างนี้เลย รอลงอาญา 2 ปี เราก็เอาตรงนั้นมาลงและใช้เป็นข้อมูล ถ้าผิดก็ขออภัยดร.ผ่านตรงนี้
เฉลิมศักดิ์ : การเอาหนังสือไปยื่นที่ศาลอาญาพระโขนง ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้วและรอลงอาญาสองปี คุณหมอได้ตรวจสอบข้อมูลนี้จากที่ไหนอีกบ้าง
นพ.แท้จริง : ดูจากสื่ออย่างเดียว สื่อรายงานทุกสื่อ
เฉลิมศักดิ์ : ท่านเอาหนังสือนี้ไปยื่นที่ศาล หนังสือก็ถูกเผยแพร่ออกมาทางสื่อ ไม่ทราบว่าออกมาจากช่องทางของท่านหรือเปล่า
นพ.แท้จริง : เราออกเป็นจดหมายเปิดผนึก แม้แต่จม.ถึงนายกฯ
เฉลิมศักดิ์ : มีการกระจายหนังสือฉบับนี้ไปให้สื่อใช่มั้ยครับ
นพ.แท้จริง : เราไม่ได้กระจาย ไม่มีเจตนาร้ายกับดร.เลย เราคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงด้วยซ้ำไป
มีมุมคลาดเคลื่อน เรื่องนี้ยังไม่มีการส่งฟ้องศาล ไม่มีการรอลงอาญา?
นพ.แท้จริง : ก็เพิ่งรู้วันนี้ แต่วันนั้นทุกสื่อบอกเหมือนกันหมด ข้อมูลที่มูลนิธิได้จากสื่อก็เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ว่ารอลงอาญา 2 ปีก็ขอโทษคุณเหมียวด้วย ทำให้สังคมเข้าใจผิดตรงนี้ ผมในฐานะที่เป็นเลขา ขออภัยไว้ตรงนี้เลย ไม่มีเจตนาร้ายต่อใคร
สุดท้ายมองยังไงเรื่องปี 65?
เฉลิมศักดิ์ : หมวดคนนั้นก็ให้การมาแล้วว่าเขาบกพร่องในหน้าที่ ส่วนเรื่องคดีก็ว่าไปตามนั้น ก็ไปตามกระบวนการของศาล เรื่องบกพร่องก็เป็นเรื่องวินัยของเขาไป ว่าจะดำเนินการอย่างไร
จริงๆ ที่มาที่นี่ ธงคุณเหมียวต้องการอะไร?
เหมียว : เอาจริงๆ เลยนะคะ เหมียวรู้ว่าส่วนเหมียวพยานหลักฐานอาจจะอ่อนเพราะไม่มีกล้องอยู่กับตัวตลอดเวลา ถ้าท่านใดดูตรงนี้แล้ว เคยเจอประสบการณ์เดียวกัน พอจะถ่ายอะไรได้ หรือมีกล้องวงจรปิดในสิ่งที่เหมียวคาใจ หรือมาช่วยเป็นพยานบุคคลให้เหมียวได้ ก็อยากให้มาช่วยกัน ที่ผ่านมาเหมียวก็เงียบตลอด ไม่พูด พอเริ่มมีการพยายามเอาคดีมา ตอนแรกเหมียวคิดว่าเหมียวพูดคงไม่ปลอดภัย แต่ตอนนี้เหมียวพูดหรือไม่พูดเหมียวก็โดนอยู่ดี ณ ตอนนี้ โดนเล่น โดนจับยัดอะไรไม่รู้ ใครก็ไม่รู้พยายามให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ดี ไม่มีเครดิต พูดอะไรอย่าไปเชื่อ เหมียวก็รู้สึกว่าถ้าโดนอยู่แล้วก็จะไม่ยอม เราก็อยากจะเผยธาตุแท้เขาเหมือนกัน มันไม่แฟร์เหมือนกันที่อีกคนยืนได้แล้วเหยียบอีกคนอยู่
คุณเรียกร้องความเป็นธรรม แต่การดื่มแล้วขับมันทำไม่ได้?
เหมียว : อันนี้เป็นบทเรียนมากๆ เลยค่ะ
อยากบอกอะไรกับสังคม?
เหมียว : ตอนนี้จ้างคนขับรถแล้วค่ะ เหมียวขอโทษด้วยนะคะ เหมียวก็ประมาทด้วย เวลาดื่มถ้าลากยาวก็เกินปริมาณ อันนี้ยอมรับเลย ตรงนี้เป็นอุทาหรณ์ของตัวเอง ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่ดื่มแล้วขับรถ จะจำไปตลอดเลยหลังจากนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้สักหยดเลยค่ะ (หัวเราะ) แล้วที่บอกว่าเหมียวเป็นไฮโซ เคลียร์ จบ จ่าย เหมียวเป็นคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือย เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากการทำงาน ไม่ใช่คนที่มีอะไรจ่ายฟาดหัว เราไม่ใช่สไตล์นั้นอยู่แล้ว ถ้าเหมียวเคลียร์เก่งจริงๆ คงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอกค่ะ อย่างคดี 65 ก็มีคนบอกว่าเหมียวให้เงิน เหมียวไม่ใช่สไตล์นั้น และแย่เหมือนกัน ถ้ามีคนว่าเราแบบนั้น
#ข่าววันนี้ #โหนกระแส