วันที่ 1 พ.ค.67 เวลา 02.10 น.พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก. ปทส.) เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการ พล.ต.ท.จักรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กำชับให้เร่งรัดจับกุมขบวนการการที่กระทำผิดกฏหมาย ในกรอบกฏหมายและอำนาจหน้าที่ ของ บก.ปทส.ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีกลุ่มขบวนรถต้องสงสัยว่าจะมีการลักลอบขนสัตว์ป่าผิดกฎหมาย​ ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจาก​ จังหวัดอาเจ๊ะ​ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย​ ขึ้นมาจาก​ อ.ละงู​ จ.สตูล​ มุ่งหน้าขึ้นมากรุงเทพฯ​ 

ดังนั้นทาง กก.5 บก.ปทส.​ และ​ ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร​ จึงได้ร่วมกับ​  U.S.Fish and​ Wildlife​ Service  ติดตามสะกดลอย​ รถยนต์จำนวน​ 4 คัน​ วิ่งมาเป็นขบวน ดังนี้ คันที่ 1  เชฟโรเลท​  ทะเบียน  2ขอ 7783 กทม. คันที่ 2 กระบะมีคอก​ ทะเบียน 1ฒผ 6472 กทม. คันที่ 3 mu-x​  ทะเบียน​ 8กค 362 กทม. คันที่ 4 รถตู้ขาว​  ทะเบียน 2ฒอ 2146 กทม.เจ้าหน้าตำรวจ ปทส. ได้เรียกขบวนรถทั้ง​ 4​ คัน​ ดังกล่าวตรวจสอบได้ที่​ บริเวณ​ภายใน​โรงแรม​ The​ K​ hotel ใกล้วัดขุนกระทิง​ ต.ขุนกระทิง​ อ.เมือง​ จ.ชุมพร​ ก่อนถึง​ ส.ทล.4 กก.2​ ชุมพร

ผลการตรวจสอบพบบุคคลภายในรถ​ทั้ง​ 4 คันดังกล่าวรวมจำนวน​ 6 คน​  ตามลำดับดังนี้ รถคันที่​ 1​ เชฟโรเรทฯ​ สีเทา 1.นายพิชิตพล​หรือเกมส์  อายุ​ 31 ปี​ อยู่บ้าน ถ.เพชรบุรี​ แขวงถนนเพชรบุรี​ เขตราชเทวี​ กรุงเทพฯ​ (คนขับ)​รถคันที่​ 2​ กระบะมีคอกฯ​ สีเทา มีนายจิตริน​  อายุ​ 39​ ปี​ อยู่บ้านเ ม.1​ ต.คลองมะเดื่อ​ อ.กระทุ่มแบน​ จ.สมุทรสาคร​ ( คนขับ​ )​ 3.นายองอาจ​  อายุ​ 29​ ปี​ อยู่บ้าน ถ.เพชรบุรี​ แขวงถนนเพชรบุรี​ เขตราชเทวี​ กรุงเทพฯ รถคันที่​ 3​ อีซูซุ​ Mu-x​ สีขาว 4.นางวีริยาอร​  อายุ​ 39​ ปี​ อยู่บ้าน ม.1​ ต.คลองมะเดื่อ​ อ.กระทุ่มแบน​ จ.สมุมรสาคร​ ( คนขับ​)​ 5.เด็กหญิง​ อายุ​ 15 ปี บุตรสาวนางวีริยาอร รถคันที่​ 4​  รถตู้​ สีขาว 6.นายทวีพงษ์​  อายุ​ 43​ ปี​ อยู่บ้าน  ถ.บางขุนนนท์​ แขวงบางขุนนนท์​ เขตบางกอกน้อย​ กรุงเทพฯ​ ( คนขับ​)​ 7.น.ส.จุฑามาศ​  อายุ​ 33​ ปี​ อยู่บ้าน ม.2​ ต.พลกรัง​ อ.เมือง​ จ.นครราชสีมา​ 

พร้อมของกลางสัตว์ป่า​อยู่ภายในรถคันที่​ 3​ และ​ 4​ ตามลำดับ 1.ลิงลีเมอร์​ ประมาณ​ 11 กรง​ จำนวน​ 48 ตัว 2.เต๋า​ ประมาณ​ 141 ลัง​ จำนวน​ 1,076 ตัวเบื้องต้นน่าเชื่อว่า​ มีความผิดฐาน​ "มีสัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุม​ ที่ต้องแจ้งการครอบครอง​ไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต​ ตาม​ ม.19 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โทษ 1 ปี 100,000​ บาท และความผิดตาม​ พ.ร.บ.ศุลกากรฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและขยายผล

โดยได้นำตัวผู้ต้องหาผู้ที่เกี่ยวข้อง​ และ​ ของกลาง​ มาที่​ กก.5​ บก.ปทส.​ในข้อหา 1. "ร่วมกันมีสัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุม ที่ต้องแจ้งการครอบครองไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ม.19 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2. “ร่วมกันเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์เข้าในเขตปลอดโรคระบาด หรือผ่านเขตแนวนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม ม.12 พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 3. “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ตาม ม.246 พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  

#ข่าววันนี้ #สัตว์ป่าคุ้มครอง #อินโดนีเซีย