"เลขาฯกกต. เผยโทษการฮั้วเลือก สว. ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ระบุสว.มาจากการเลือกกันเองของผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างจาก สส.-นักการเมือง มาจากการเลือกตั้งของปชช. จึงทำได้แค่แนะนำตัวห้ามหาเสียง ด้าน ธนกร แนะ ธนาธร-ช่อ ระวังผิดกฎหมาย หลังเปิดแคมเปญชวนคนสมัคร สว. เตือนหยุดเคลื่อนไหวถ้าอยากได้ สว.เป็นประชาธิปไตย ลั่นหากมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังเจอคุก-ปรับ
เมื่อวันที่28 เม.ย.67 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้โพสต์เฟซบุ๊ค เกี่ยวกับข้อกำหนดตามรัฐธรรมนูญ ในการแนะนำตัวของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ห้ามหาเสียง บทกำหนดโทษการทุจริตในการเลือก การให้ความรู้เชิญชวนบุคคลเข้ามาสมัครทำได้หรือไม่ กกต. จึงได้ออกระเบียบการแนะนำตัว ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ โดยหยิบยกลักษณะของสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องแตกต่างจากสภาผู้แทนราษฎรเป็น "สภาผู้ทรงคุณวุฒิ" สมาชิกจะต้องเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งแตกต่างจากสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสภาของนักการเมือง และสว. มีที่มาจากการเลือกกันเองของผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วน สส. มาจากการเลือกของประชาชน
ด้วยเหตุข้างต้น กฎหมายจึงกำหนดให้ผู้สมัคร สว. ทำได้แค่การแนะนำตัวซึ่งหมายความว่าห้ามหาเสียงโดยปริยาย เพราะเชื่อว่าผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองที่สมัครทุกคนมีความดี เด่น ดัง ในสาขาอาชีพของตัวเองเป็นที่ประจักษ์และทราบดี และจะมีวิจารณญาณในการเลือกที่ถูกต้องได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีการจัดตั้งฮั้วกันในการเลือก
การแนะนำตัวคือการบอกว่าตัวเองเป็นใครมีประสบการณ์ในกลุ่มสาขาอาชีพอย่างไรก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ทรงครูด้วยกันมีข้อมูลในการเลือกกันเองแล้ว ไม่ว่าจะการเลือก ในกลุ่ม หรือการเลือกไขว้ ที่มาของสว. มาจากการเลือกและแนะนำตัว ไม่ใช่มาจากการเลือกตั้งหรือการหาเสียง
บทกำหนดโทษการแนะนำตัวและโทษในการทุจริตในการเลือก ซึ่งโทษของการแนะนำตัวคือการขอคะแนนการแลกคะแนนกัน ที่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการซื้อเสียงตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นการแนะนำตัวที่ไม่ถูกต้องพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต นั่นหมายความว่าการจัดตั้ง การฮั้ว อยู่ในลักษณะความผิดนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงโทษของการทุจริตในการเลือกเช่นการซื้อเสียง การจ้างให้คนลงสมัคร หรือรับจ้างสมัคร สมัครโดยเอกสารเท็จ รับรองการสมัครมีโทษความผิดเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง จำคุกและปรับ และหากแนะนำตัวไม่ถูกไม่ถูกต้องตามกฎหมายมีมีความผิดถึงขั้นโดนใบดำตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตได้
ส่วนการให้ความรู้ การเชิญชวนคนสมัคร โดยทั่วไปหยุดแค่ให้ความรู้ หรือเชิญชวน ลักษณะนี้โดยตัวมันเองสามารถทำได้แต่อาจเป็นเหตุให้เป็นความผิดอื่นได้แม้ดำเนินการต่อเนื่องจากการให้ความรู้หรือการเชิญเช่นการตั้งกลุ่มเพื่อติดต่อกัน ไม่ว่าในช่องทางใด การตั้งกลุ่มไลน์ และมีการแลกคะแนนการขอคะแนนกันการฮั้วกันเป็นต้น หรือการสร้างกลุ่มแต่มีการแนะนำตัวเป็นวิธีแนะนำตัวตามระเบียบและกฎหมายที่ กกต. ประกาศ บนหลัก 3 ประการ ด้วยต้องการให้ได้มาซึ่ง สว. ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อให้การแข่งขันที่เป็นธรรม ให้ผู้ทรงคุณวุฒิสมัครด้วยตัวเองหากมีการจัดตั้งอยู่เบื้องหลังก็จะทำให้การได้มาซึ่ง สว. เป็นอิสระไม่เป็นกลางและเอาเปรียบคนที่ตั้งใจ ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้สมัคร และย้ำว่าหากต้องการเป็นสมาชิกวุฒิสภาจะต้องมีการแนะนำตัวให้ถูกต้องซึ่งสามารถทำได้ไม่ยากและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่าคิดเอาเปรียบผู้อื่น ทั้งนี้พร้อมรับฟังทุกความเห็น บนหลักกฏหมาย หรือความเห็นที่มีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ แต่ในท้ายที่สุด กกต. ต้องทำตามกฎหมายไม่สามารถทำตามความต้องการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ออกประกาศเตือนไปถึงกลุ่มบุคคลและตัวแทนองค์กรได้จัดแคมเปญให้มีการจูงใจ หรือ ชี้ชวน รวบรวมบุคคลจากหลากหลายอาชีพรวม 20 กลุ่มให้เป็นผู้เสนอตัวสมัครเข้ารับการเลือกให้เป็น สว.ในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ โดยมีผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการเลือกเป็นสว.จำนวนมากได้กรอกข้อมูลส่วนตัว จุดยืนวิสัยทัศน์ ลงในเว็บไซต์เพื่อให้ผู้จัดแคมเปญรวบรวมข้อมูลนั้น อาจเข้าข่ายเป็นการจัดตั้งบุคคล ให้มาเป็นผู้สมัครรับเลือก สว. อาจเข้าข่ายมีความผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ หากกกต.มีเหตุสงสัยว่าการเลือกไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต กกต. มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ได้ทันที และถ้าพบว่าผู้สมัครรับเลือกเป็น สว. ยินยอมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใดช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับเลือกต้องถูกระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับ ตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย ซึ่งท้ายที่สุด จะทำให้การเลือกสว.มีปัญหาในหลายอำเภอ หลายจังหวัด โดยมองว่า จะมีการร้องเรียนกันไปมาวุ่นวายทั้งประเทศและส่งผลทำให้ได้สว.ชุดใหม่ ล่าช้าออกไป
จึงขอฝากไปถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นางสาวพรรณิการ์ วานิช และแกนนำที่ออกมาเปิดแคมเปญเชิญชวนให้คนมาสมัครเป็นสว.กันเยอะๆ และยังมีการให้กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์นั้น กกต.ออกโรงเตือนแล้วขอให้ระมัดระวัง อย่าทำผิดกฎหมายเสียเอง ถ้าอยากเห็นสว. ชุดใหม่ มีที่มาโดยสุจริต ถูกต้องและโปร่งใส เลือกกันเองใน 20 วิชาชีพ ไม่มีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงหรืออยู่เบื้องหลัง ตามเจตนารมย์ประชาธิปไตยจริงๆ ก็ไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว สุดท้ายเกรงว่าจะได้สว.จัดตั้งในร่างทรงฝ่ายการเมืองบางกลุ่มมากกว่า นายธนกร กล่าว