ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ สั่งการให้ป้องกันจังหวัด ร่วมกับอำเภอเมือง และตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำกำลังบุกจับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าลอบขายกลางเมืองใกล้สถานศึกษา หลังมีประชาชนร้องเรียน โดยหน้าร้านติดป้ายรับสักลาย แต่ข้างในขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว ทั้งโพสต์ขายออนไลย์   ยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์เกือบ 2,000 ชิ้น  มีชาย 3 คน อ้างเป็นพนักงานได้ค่าจ้างวันละ 300 เตรียมขยายผลติดตามตัวเจ้าของดำเนินคดี 

(26 เม.ย.67)  นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มอบหมายให้  นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และนายไชยยันต์ พาสว่าง ป้องกันจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  และตำรวจ  บุกจับร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาและแหล่งชุมชน  หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า ร้านดังกล่าว   ซึ่งด้านหน้าติดป้ายข้อความว่าเป็นร้านรับสักลาย แต่กลับลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีการตั้งขายทั้งหน้าร้าน และโพสต์ขายทางออนไลน์ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย     

จากการตรวจค้นภายในร้านพบบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก  จึงได้ทำการตรวจยึดไปตรวจสอบที่ค่ายอาสารักษาดินแดน (อส.)จังหว้ดบุรีรัมย์ โดยของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วย  หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า 619 ชิ้น , เครื่องพอตบุหรี่ไฟฟ้า 21 ชิ้น ,บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง 548 ชิ้น, น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า 414 ชิ้น และอะไหล่บุหรี่ไฟฟ้าอีก 8 ชิ้น   

ทั้งนี้ ขณะตรวจสอบยังพบชายวัยรุ่น 3 คน อยู่ภายในร้าน จากการสอบถามก็ปฏิเสธว่า ไม่ใช่เจ้าของร้าน  เป็นเพียงพนักงานที่รับจ้างขายบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น โดยได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ทั้งอ้างว่า ได้เปิดขายบุหรี่ไฟฟ้ามาประมาณ 3 เดือนแล้ว  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวเจ้าของร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

         นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ภายหลังจากมีประชาชนร้องเรียนทางจังหวัดว่า มีการลักลอบเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้สั่งการให้นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์   บุกจับกุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งหน้าร้านติดว่า รับสักลายแต่จากการตรวจสอบภายในไม่พบมีการรับสักลาย  แต่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหน้าร้าน และโพสต์ขายออนไลน์   จึงได้ทำการจับกุม และตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก  ซึ่งผู้ที่ลักลอบจำหน่ายก็มีความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และติดตามตัวเจ้าของมาดำเนินคดีด้วย