ความคืบหน้ากรณีก๊าซแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่ว ฟุ้งกระจายชาวบ้านหนีตายเพราะแสบตาแสบจมูก ล่าสุดบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าตรวจสอบโรงน้ำแข็งที่ อ.น้ำโสม เผยขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้องแต่ยังไม่ได้ขอ มาตรฐาน อย. และGMP เจ้าหน้าที่ฯ สั่งโรงงงานปิดและหยุดผลิตน้ำแข็งชั่วคราวจนกว่าจะแก้ไขเสร็จ ห่วงความปลอดภัยของชาวบ้าน เจ้าของโอดบ่ได้ร้ายแรงอย่าสั่งปิดเถอะแบบนี้ฉันก็เจ๊งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เหน็บนักข่าวพวกเจ้ากระพือข่าวเกินไปว่าระเบิด จริงๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้เสียหายอาจจะฟ้อง ส่วนยายข้างโรงน้ำแข็งยืนยันได้เสียงระเบิดจริงๆ 05.40 น.ต่อมาเวลา 05.46 น.ก๊าซก็เข้าตาและจมูกจนแสบจนต้องหนีออกจากบ้าน
วันนี้ (26 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีเกิดเหตุดก๊าซแอมโมเนียของโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งใกล้ตลาดสดเทศบาล ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี จนมีกลิ่นของก๊าซแอมโมเนียฟุ้งกระจายไปในรัศมีเกือบ 300 เมตร ชาวบ้านแถวโรงน้ำแข็งต้องหอบลูก อุ้มคนแก่หนีออกมา เนื่องจากมีอาการแสบตาและจมูกเป็นอย่างมาก เจ้าของโรงงานได้เร่งแก้ไขเสร็จในเวลาไม่นาน ชาวบ้านจึงพากันอพยพกลับมายังบ้าน
ต่อมานางวันเพ็ญ ใจซื่อ สาธารณสุขอำเภอน้ำโสมได้ลงพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า หลังแก๊สรั่วเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอน้ำโสมได้ลงพื้นที่ทันที เบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบ ปวดหัววิงเวียน 6 คน แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 3 คน ระคายเคืองผิวหนัง 2 คน แสบตา 4 คน แสบคอ 2 คนคอแห้ง 1 คน รวม 20 คน 1 ใน 20 คน มีหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย อายุ ครรภ์ 28 สัปดาห์ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าลูกดิ้นน้อยลง ผลการตรวจครรภ์ปกติดี นอกจากนี้ยังมีชายไทยอายุ 75 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะคอแห้ง ผลตรวจแพทย์วินิจฉัยว่าอาการปกติ สำหรับโรงน้ำแข็งดังกล่าวเปิดกิจการนานแล้วตั้งแต่ปี 2559 รวม 8 ปีผลิตน้ำแข็ง 100 ตันต่อวัน มีก๊าซแอมโมเนีย อยู่ราวเครื่องละ 1,200 ลิตร จำนวน 2 เครื่อง ขนาด 2,400 ลิตร เมื่อปีที่แล้วก็เกิดก๊าซแอมโมเนียรั่วแต่ไม่รุนแรงเหมือนในวันนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ทีมสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และศูนย์ความปลอดภัยแรงงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำแข็งหลังสารแอมโมเนียรั่วออกจากถังเก็บและได้ดำเนินการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีนางอุมาพร เจ้าของโรงน้ำแข็งพาเจ้าหน้าที่ตรวจดูตรงจุดที่ก๊าซรั่ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำที่นำมาทำกระบวนผลิตน้ำแข็งทั้งก่อนผลิตน้ำแข็งไปตรวจสอบด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานที่การขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีการขออนุญาตผลิตอาหารหรือ อย. จากสำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี โดยเจ้าของฯ ชี้แจงว่า แจ้งบริษัทขออย.หลายปีแล้วแต่ทางบริษัทที่ไปจ้างทำยังไม่ดำเนินการให้เลย ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับเจ้าของโรงน้ำแข็งว่า ต้องขอให้ปิดหยุดการผลิตน้ำแข็งไปเป็นชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะแก้ไขให้แล้วเสร็จและขอมาตรฐาน อย.ให้ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่เจ้าของโรงน้ำแข็งตัดพ้อ พี่ๆ อย่าปิดโรงงานหนูเลย แบบนี้พี่ๆ ก็มาฆ่าหนูให้ตาย มันไม่ได้เป็นอะไรมากเลย ถังก๊าซไม่ได้ระเบิดเป็นแค่อุบัติเหตุท่อหลุดและรั่ว จากนั้นก็รีบปิดใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้น ทั้งนี้เจ้าของโรงน้ำแข็งดูท่าจะน้อยใจได้ชี้แจงกับทางผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอะไรมากถพวกพี่ๆ นักข่าวพากันตีข่าวใหญ่โตว่าถังก๊าซระเบิด ประโคมข่าวเวอร์ไป แค่ท่อหลุดและรั่วเท่านั้น สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซอาร์เมเนียรั่วที่เป็นผู้เฒ่าผุู้แก่ 9 คน ทางโรงงานเรายินดีรับผิดชอบทุกอย่าง หรือหากใครต้องการเยียวยาก็พร้อมจะช่วยเหลือ ยืนยันก๊าซแอมโมเนียรั่วเป็นเพราะอุบัติเหตุเนื่องจากน้ำแข็งเด้งออกหลอดประมาณ 10 นาที จากนั้นก็รั่วและก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อยากฝากคนที่เสนอไปถึงนักข่าวที่เสนอข่าวไปมั่วๆ ระวังจะโดนฟ้องนะ เพราะทางโรงงานเอาเสียหาย สำหรับโรงงานแห่งนี้เปิดมาไปทั้งปีตั้งแต่ปี 2559 รวมถึงตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว เจ้าของโรงน้ำแข็งกล่าวด้วยความน้อยใจ
ทางด้านนายอดุลย์ ลาภะแนน เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกรณีโรงงานน้ำแข็งแอมโมเนียรั่ว ทางเจ้าหน้าที่สาสุขได้ให้คำแนะนำให้เร่งดำเนินการตามมาตรฐาน โดยทางสาธารณสุขจะมีการเก็บตัวอย่างน้ำที่ใช้ในการผลิตและน้ำแข็งไปตรวจสอบ และจาการตรวจเชิงลึกพบว่าโรงงานแห่งนี้ไม่ได้ขออนุญาต อย. และไม่มีมาตรฐาน GMP
อย่างไรก็ตามใจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมีการกล่าวโทษผ่านพนักงานสอบสวนสภ.น้ำโสม เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้องตั้งโรงงานผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเราจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับสารแอมโมเนียหากสูดดมเข้าร่างกายในปริมาณมากก็จะกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ อย่างไรก็ดีผู้ที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนไม่มากและปลอดภัยแล้ว
ด้านนายภูมิภัส มัลเชษฐ์ นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี บอกว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วเกิดจากท่อมีการชำรุดเสียหาย ในส่วนของท่อที่ต่อเข้าถังบรรจุแอมโมเนีย สำหรับโรงงานแห่งนี้ขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตน้ำแข็งโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนมาตรฐานอื่นๆนั้นทางอุตสาหกรรมไม่ได้ดูแล ในส่วนมาตรฐาน อยและ GMP ขึ้นตรงอยู่กับสาธารณสุข เบื้องต้นทางอุตสาหกรรมได้มีการให้โรงงานดังกล่าวปรับปรุงแก้ไข และได้สั่งให้หยุดการผลิตน้ำแข็งก่อน จนกว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทุกอย่าง
ทั้งนี้มีเสียงยืนยันจากชาวบ้านใกล้เคียงคือนางประยงค์ แจ้งว่า ก่อนที่ก๊าซแอมโมเนียจะรั่ว ก็ได้ยินเสียงระเบิดจริงๆ ในเวลา 05.40 น.จากนั้นเวลา 05.46 น.ก๊าซก็ลอยมาแตะจมูกและตา จนแสบมากต้องพากันหนีออกจากบ้าน ครั้งนี้หนักกว่าครั้งแรกเพราะแสบตาแสบจมูกมากจนต้องหนีออกจากบ้าน
ทางด้านนายยงยุทธ อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านตรงข้าม บอกว่า ตอนนั้นตนกำลังอาบน้ำเวลาประมาณ 7.00 น. เมื่อเปิดร้านออกมาก็ได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนียจนแสบตาแสบจมูก ตนจึงหยิบแมสขึ้นมาใส่แต่ก็อยู่บ้านไม่ได้ จึงขับรถออกจากบ้านไป สำหรับเหตุการณ์แอมโมเนียรั่วไหลนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2