จากกรณีคนร้าย 20 คนพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าไปคุมตัวคนงานที่กำลังทำงานในโรงไฟฟ้า บริษัทประชารัฐชีวมวลแม่ลาน ตั้งอยู่ริมถนนสายยะลา-ปัตตานี ม.7 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ก่อนที่คนร้ายกระจายกำลังวางเพลิงรถยนต์และลอบวางระเบิด 5 จุดจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นและเกิดความเสียหาย โดยคนงานทั้ง 7 คนปลอดภัย แต่คนร้ายได้ตะโกนว่าได้วางระเบิดไว้ 10 ลูกแต่ระเบิดแล้ว 5 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องทำการค้นหาระเบิดที่คนร้ายข่มขู่ไว้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 เมย. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดยังคงค้นหาระเบิดอีก 5 ลูกที่คนร้ายขู่ว่าได้วางระเบิดไว้ 10 ลูก แต่ระเบิดไปแล้ว 5 ลูกเหลืออีก 10 ลูกที่ยังไม่ระเบิด โดยเจ้าหน้าที่ได้กั้นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากอาคารโรงงานเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.อ.ปรเมธ ศานุพงศ์ ผบ.ทพ.43 เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและประชุมวางแผนการปฏิบัติอย่างละเอียดเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับความปลอดภัยภายในโรงงาน โดยมี นายวารินทร์ มาศชาย ผู้จัดการโรงงานร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้ และเบื้องต้นชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้รายงานสรุปหลังเกิดเหตุว่าได้เข้าทำการตรวจสอบภายในโรงงานจุดที่เกิดเหตุระเบิดทั้ง 5 จุดพร้อมทั้งได้มีการรวบรวมวัตถุพยานในพื้นเกิดเหตุอย่างละเอียด ขณะที่อุปกรณ์บันทึกภาพนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบว่าสามารถดึงภาพช่วงเกิดเหตุได้หรือไม่ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุนั้นสัญญาณภาพดับเพราะปัญหาเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แต่ถ้าเครื่องยังสามารถบันทึกภาพก็น่าจะเชื่อว่าจะสามารถดึงภาพออกมาได้ ขณะที่พยานทั้ง 7 คนเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำต่อเนื่องและอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจ
ปรากกว่าขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 กำลังประชุมนั้น ได้รับรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดว่า ขณะเข้าตรวจสอบภายในตัวอาคาร 7 ชั้น ปรากฏว่าพบระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลาบรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักประมาณ 15 กก. แขวนไว้บริเวณราวบันไดชั้น 3 เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยออกมาและแจ้งให้ทุกหน่วยทราบเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะสรุปสถานการณ์หลังพบระเบิดอีก 1 ลูก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบหรือทำการเก็บกู้ไว้ได้เนื่องจากระเบิดดังกล่าวเป็นแบบตั้งเวลาและเกรงว่าหากเข้าเก็บกู้ระเบิดอาจจะทำงานและจะได้รับอันตราย โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ลงความเห็นว่า เพื่อความปลอดภัยควรคุมพื้นที่เกิดเหตุห้ามเด็ดขาดไม่ให้บุคคลใดเข้าภายในโรงงานภายใน 5 วัน ทั้งนี้เพื่อให้ระเบิดหรือแบตเตอร์รี่เสื่อมและจะเข้าตรวจสอบอีกครั้งในวันที่ 1 พค.นี้
ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้จากข้อมูลความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ทราบว่ามีการประชุมวางแผนในพื้นที่ อ.หนองจิก เพื่อจะก่อเหตุในพื้นที่แต่ยังไม่ทราบเป้าหมาย โดยมีแกนนำระดับปฏิบัติการณ์ที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ร่วมกับแนวร่วมชุดใหม่ที่เข้ามาเสริมในการก่อเหตุที่โรงงานไฟฟ้า อ.แม่ลาน
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 จุดทั้งที่ จ.ปัตตานี และสงขลา ตนได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบทั้งสองจุดและได้รับรายงานความคืบหน้าแล้ว โดยเฉพาะการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ จ.สงขลา ซึ่งพบว่าคนร้ายมีการปฏิบัติการณ์และเห็นตัวชัดเจนถึงแม้ว่าจะปิดบังใบหน้าก็ไม่สามารถตบตาฝ่ายเราได้ การแกะรอยตัวคนร้ายนั้นเรามีวิธีการที่จะรู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุใน จ.ปัตตานีนั้น ชัดเจนว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกันแต่รับผิดชอบพื้นที่ต่างกัน ซึ่งตามสายข่าวที่รายงานมานั้น รู้เบื้องต้นแล้วว่าคนร้ายจะก่อเหตุทำลายเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งการก่อเหตุเช่นนี้นอกจากจะทำให้เจ้าของโรงงานได้รับความเดือดร้อนแล้วนั้นยังทำให้ คนงานซึ่งเป้นคนในพื้นที่ต้องหยุดงาน ประชาชนที่มีอาชีพหาไม้ส่งเข้าโรงงานก็ต้องหยุดงานไปด้วย ซึ่งได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างโดยเฉพาะประชาชน อย่างไรก็ตามตนได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งขยายผลโดยด่วนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด