เมื่อวันที่ 25 เม.ย.67 นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พร้อมด้วย นายพันธ์ชัย วัฒนชัย นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฯ และคณะทำงาน ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมชาวบ้านและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่อำเภอมหาชนะชัย และอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายบุญแก้ว สมวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยโสธร เขต 2 นายอำเภอมหาชนะชัย นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว เกษตรจังหวัดยโสธร ผอ.สวท.ยโสธร ผู้แทนสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่และชาวยโสธร ร่วมให้การต้อนรับ
โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้ไปจุดแรกที่ศาลาประชาคมบ้านคุ้ม หมู่ที่ 9 ตำบลคูเมือง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เพื่อพบปะชาวบ้านและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมลงพื้นที่ไปดูถนนเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมถนนให้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวก จากนั้นเดินทางไปจุดที่ 2 คือกลุ่มแม่บ้านวิสาหกิจชุมชนบ้านนาเวียง ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งแปรรูปและจำหน่ายผลผลิตถั่วลิสงมานานกว่า 25 ปี ปัจจุบันดำเนินการภายใต้ชื่อ “ถั่วดินเวียงทอง” มีสมาชิก 100 ราย พื้นที่ปลูกถั่วลิสง 585 ไร่ มีผลผลิตประมาณปีละ 146 ตัน และในวันนี้สมาชิกลุ่มต้องการรับการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตการแปรรูปถั่วลิสงให้ทันต่อความต้องการของตลาด พร้อมลงพื้นที่ไปสำรวจการปลูกถั่วลิสงแปลงใหญ่ ส่วนจุดที่ 3 ไปที่โครงการขุดลอกคลองไผ่ตอนบน ตำบลเหล่าไฮ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่ตื้นเขินเนื่องจากการทับถมกันของตะกอนดินและการพังทลายของดิน ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดปี
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญทั้งด้านสาธารณูปโภค การบริหารจัดการน้ำ และการส่งเสริมอาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนและจะผลักดันให้เกิดโครงการที่จะเป็นการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการซ่อมแซมเส้นทางการสัญจร การส่งเสริมกลุ่มอาชีพ และการขุดลอกเพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ รวมทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนพัฒนาต่อยอดโครงการ และยังได้กล่าวถึงเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดต่อไป