วันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 17.17 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เ ศูนย์วิทยุ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านดอนรัก ต.พระแท่นฯ ว่าเกิดเหตุมีลูกทะเลาะกับพ่อแล้วใช้แม่ไม้มวยไทยชกต่อยพ่อจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านดอนรัก ต.พระแท่นฯ จึงแจ้งให้ พ.ต.อ.สมบัติ  โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ ทราบเรื่อง และสั่งการให้ พ.ต.ท.อุทัย  เปี่ยมลาภ  สารวัตรเวรสอบสวนทราบเรื่อง 

จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี ให้มาตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่า เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ประจำจุดรอรับเหตุ ต.พระแท่นฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพจุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกาฯ กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ ณ จุดเกิดเหตุเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์และตำรวจในการชันสูตรพลิกศพ ตรวจสอบในบริเวณที่เกิดเหตุข้างบ้านหลังดังกล่าวพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนหงายอยู่กับพื้น ใบหน้าและลำตัวท่อนอยู่ในลักษณะตะแคงข้างด้านขวา ขาด้านขวาพับในเสียชีวิตอยู่ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมหมวกแก็ป มีบาดแผลเขียวช้ำที่บริเวณใบหน้า เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบบาดแผลอื่นใดๆ ที่เป็นบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายของผู้ตาย

สอบสวนปากคำภรรยาผู้ตายทราบว่า ผู้ตายชื่อนายธวัช(ขอสงวนนามสกุล) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกอาจารย์วัฒน์ อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 1 ต.พระแท่นฯ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผู้ตายมีอาชีพเป็นร่างทรงชื่อดัง รับทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ ศาลพระพรหม นางไม้ จอมปลวกเพื่อทำพิธีถอนศาล ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อนายสิทธิชัย หรือที่วัยรุ่นทั่วไป เรียกว่า "เปรม ดอนรัก" อายุ 31 ปี เป็นลูกชายของผู้ตายที่เพิ่งสึกออกมาจากการเป็นพระบวชเรียนอยู่ที่วัดดังแห่งหนึ่งอยู่ในเขต อ.ท่ามะกา 

สาเหตุที่ต้องสึกออกจากการเป็นพระ เพราะทะเลาะกับเจ้าอาวาส เพราะปีศาจสุราเข้าสิง แถมยังติดยาบ้างอมแงม หลังสึกออกมาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานอะไร มักจะไถเงินนายธวัช ผู้ตายซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าไปซื้อยาเสพอยู่เป็นประจำ จนประสาทเพี้ยน แต่หลังๆ หันไปดื่มเหล้าแทน จนกลายเป็นปีศาจสุราเข้าสิง ซึ่งผู้ตายก็ได้ไปบวชเป็นพระเช่นกัน แถมอยู่วัดเดียวกันกับลูกชาย  แต่นายสิทธิชัยสึกจากพระออกมาก่อน เพราะมีปัญหากับเจ้าอาวาสจึงจับสึก

จากการสอบสวนปากคำภรรยาผู้ตายยังทราบอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธวัช หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกหมอวัฒน์ ซึ่งเป็นร่างทรงชื่อดัง เพิ่งสึกออกมาจากการบวชเป็นพระได้เพียง 7 วัน อยู่ๆ นายสิทธิชัย หรือที่ชาวบ้านและกลุ่มวัยรุ่นทั่วไปเรียกติดปาก "เปรมดอนรัก" ซึ่งเป็นลูกภรรยาเก่า ได้มาขอเงินค์ไปซึ้อเหล้า แต่ผู้ตายกำลังโทรศัพท์คุยกับภรรยาเก่าที่เลิกร้างกันไป โดยภรรยาเก่าได้ไปทำงานอยู่กรุงเทพมหานครฯ โดยที่ผู้ตายฟ้องภรรยาเก่าถึงพฤติกรรมของลูกชาย และบอกว่า ให้อดีตภรรยาโอนเงินมาให้ด้วย 

ระหว่างที่ผู้ตายกำลังคุยโทรศัพท์กับอดีตภรรยาอยู่นั้น นายสิทธิชัย หรือเปรมดอนรัก ก็เอะอะโวยวายใส่นายธวัช ผู้เป็นพ่อ โดยกล่าวหาว่า พ่อทำไมต้องโทรไปฟ้องแม่ แถมชักช้าหยิบเงินให้ช้า กำลังอยากเหล้ามาก จึงเกิดมีปากเสียงกันดังลั่นบ้าน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ในละแวกหมู่บ้านดอนรักไม่ได้สนใจอะไร เพราะ 2 พ่อลูก มักจะทะเลาะกันอยู่เป็นประจำเสมอ อยู่ๆ นายสิทธิชัย ก็เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อผู้เป็นพ่อ ทำให้นายธวัช ผู้ตาย โกธรมาก จึงดุด่าตบตีสั่งสอน นายสิทธิชัยลูกทรพีรายนี้ จึงชกไปที่นายธวัช ผู้ตาย 3 ที จนนายธวัช ล้มลงศีรษะฟาดพื้นจนเสียชีวิต

หลังก่อเหตุนายสิทธิชัย ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนปากคำที่โรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทำร้ายบุพการีจนเสียชีวิตต่อไป ส่วนศพนายธวัช หรือหมอวัฒน์ ได้มอบให้มูลนิธิฯ นำไปฝากไว้ที่ รพ.ฯ รุ่งเช้าให้นำส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียด ก่อนจะมอบศพให้ภรรยาคนปัจจุบันและญาติๆ นำไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป