วันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 11.10 น.ร้อยตำรวจเอก ยศวรรณ์ รัตนะศรี รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตสาเหตุจากการถูกไฟฟ้าดูด ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสำนักงาน การไฟฟ้า เขตราษฎร์บูรณะ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลังภายในพื้นที่ของสำนักงานการไฟฟ้าเขตราษฎร์บูรณะ เลขที่ 455 ถนน ราษฎร์บูรณะ เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบภายในจุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อนาย อนุศักดิ์ โกษะสุทธะ อายุ 45 ปี เป็นพนักงานขับรถของการไฟฟ้า ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทเอาท์ซอร์สซึ่งเป็นบริษัทภายนอกเข้ามารับหน้าที่เป็นพนักงานขับรถให้กับการไฟฟ้า อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่บนพื้น การแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า มีบาดแผลจากการถูกกระแสไฟฟ้าดูดบริเวณฝ่ามือข้างซ้ายเป็นรอยไหม้ และบริเวณหน้าอกด้านซ้ายใต้ราวนมก็มีบาดแผลจากการถูกกระแสไฟฟ้าดูดเช็นกัน
ตอนเเรกที่อาสาสมัคร และทีมกู้ชีพในระบบเอราวัณ มาถึงได้พยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการ CPR อยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง และได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ไม่เป็นผล จึงยืนยันเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ถัดมาไม่ไกลจากร่างผู้เสียชีวิตพบรถ 6 ล้อ เครนติดกระเช้า สีส้ม ยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน 53-3723 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างรถมีสติกเกอร์ระบุ การไฟฟ้านครหลวง ขร 452 และถัดมาไม่ไกลกันพบเครื่องปั้มน้ำ ปลายสายไฟของเครื่องปั้มน้ำดัวกล่าวไม่มีหัวเสียบปลั๊กไฟ เป็นลักษณะของการเปลือยสาย
จากการบอกเล่าจากผู้ที่อยู่ภายในบริเวณดังกล่าวบอกเล่าว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้มาล้างรถอยู่บริเวณดังกล่าวตั้งแต่ตอนเช้าแล้วก็โดนไฟดูดไปตอนไหนไม่รู้พอมารู้อีกทีก็มีคนที่เดินผ่านมาเห็นว่านอนหงายหน้าลงกับพื้นแล้วโดยมีหัวฉีดน้ำลักษณะเป็นปืนพาดอยู่บริเวณหน้าอกส่วนมือซ้ายจับอยู่ที่ด้ามของปืนฉีดน้ำดังกล่าว จึงได้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าก่อน แล้วแจ้งทางพยาบาลที่ห้องปฐมพยาบาลภายในสำนักงานให้เร่งมาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วโทรศัพท์เเจ้งกู้ภัยทันที
ซึ่งปรกติผู้ตายก็ล้างรถประจำตรงบริเวณดังกล่าวอยู่แล้วก็ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรแต่อย่างไรก็ไม่รู้ได้ถึงได้เกิดไฟฟ้ารั้วในวันนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช ได้ตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว จึงมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป