วันที่ 23 เม.ย.67 ที่ บก.สอท.2
พ.ต.ท.เอกภณ คณุญาพงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สอท.2 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กสทช. และหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจติดตามการปรับเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการบริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชา ณ บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่อาจส่งสัญญาณข้ามพรมแดนไทย สกัดการเชื่อมโยงสัญญาณของกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่แฝงตัวตามแนชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมตรวจสอบมาตรการลงทะเบียนเปิดใช้ซิมของผู้จําหน่ายซิมการ์ดรายย่อย ให้มีความเข้มงวด รัดกุม เป็นไปตามประกาศของ กสทช. ป้องกันการลักลอบเปิดใช้งานซิมผีและบัญชีม้า เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พ.ต.ท.เอกภณ กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.ท. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกประเภท โดยเน้นไปที่พื้นที่แนวชายแดน ที่ผ่านมาตำรวจในพื้นที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาดทุกราย และการลงพื้นที่ของตำรวจไซเบอร์ และ กสทช. ในครั้งนี้ เพื่อตรวจติดตามการปรับเสาสัญญาณมือถือของผู้ให้บริการ ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่คราวก่อน โดยที่ผ่านมาได้มีมาตรการกำชับให้ กสทช.ส่วนภูมิภาค ใช้ผู้เชี่ยวชาญของ กสทช. และเครื่องมือเทคนิค สุ่มตรวจสัญญาณมือถือของผู้ให้บริการ โดยเน้นหนักในพื้นที่ชายแดน ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กําชับให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่ง กสทช. อยู่ระหว่างการเร่งออกมาตรการเกี่ยวกับการตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณแนวชายแดน เพื่อจัดระเบียบให้การประกอบกิจการโทรคมนาคมรัดกุม ป้องกันมีให้มีการนำสัญญาณโทรศัพท์จากผู้ให้บริการของไทย เอื้อต่อกลุ่มมิจฉาชีพตามแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้
นอกจากนี้ กสทช. ยังได้ออกมาตรการการยืนยันตนผู้ที่ถือชิมตั้งแต่ 6-100 ซิม และ 101 ซิมขึ้นไป เพื่อให้สอดรับกับ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ดังกล่าว