Infinix (อินฟินิกซ์) แบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลกราคาคุ้มค่า ครบครันทุกการใช้งาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ได้รับการยกย่อง ให้เป็นหนึ่งใน World's Most Innovative Companies ประจำปี 2024 จาก Fast Company แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของอินฟินิกซ์ในด้านนวัตกรรม ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมาร์ตโฟน และจุดยืนของอินฟินิกซ์ในการผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับราคาที่ย่อมเยา อาทิ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 260 วัตต์อันล้ำสมัย  ฟีเจอร์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น ระบบตัดเสียงรบกวนและผู้ช่วยเสมือน Folax ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่พร้อมยกระดับประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับผู้ใช้งาน

มร.โทนี่ เชา ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อินฟินิกซ์ กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับการยกย่องจาก Fast Company ให้เป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนเพียงแบรนด์เดียวที่อยู่ใน 10 อันดับแรก โดยการจัดอันดับครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรม และความมุ่งมั่นในการมอบเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยให้กับผู้ใช้งานอย่างไม่หยุดยั้ง  ซึ่งในปีนี้อินฟินิกซ์ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนเกมมิ่งรุ่นเรือธง เพื่อสนับสนุนเหล่าเกมเมอร์มืออาชีพในวงการอีสปอร์ต และล่าสุดกับการเปิดตัวรุ่น NOTE 40 Series สมาร์ตโฟนที่จะมามอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ความสำเร็จทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการรับฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าและมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง"

World's Most Innovative Companies 2024 เป็นการจัดลำดับจาก Fast Company สื่อธุรกิจชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และเป็นหนึ่งในการจัดอันดับที่กองบรรณาธิการและผู้อ่านของ Fast Company รอคอยมากที่สุดของปี ด้วยการคัดเลือกบริษัทกว่าหลายพันแห่งที่สร้างความก้าวหน้าในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ผ่านกระบวนการสมัครและแข่งขันจนได้ผลลัพธ์เป็นสุดยอดรายชื่อบริษัทด้านนวัตกรรมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

Fast Company กล่าวว่า "แม้ว่าการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทั่วโลกจะชะลอตัวลงในปีที่ผ่านมา แต่บริษัททั้งสิบอันดับเหล่านี้ไม่เพียงแต่นำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น แต่ยังได้ส่งมอบและขยายฐานการดำเนินงานของตนเองไปยังกลุ่มภูมิภาคอื่นอีกด้วย"
    

อินฟินิกซ์มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จ และสามารถเทียบเคียงกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอื่น ๆ  เช่น Nvidia, Microsoft, YouTube, OpenAI และอีกมากมาย จากการเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้ถูกจับตามอง สู่การก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่มแบรนด์ชั้นนำ ตอกย้ำความทรงพลังด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยการคว้าอันดับ 6 ในบริษัทนวัตกรรมระดับโลกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก Fast Company มาได้ ทั้งหมดนี้มากจากการดำเนินงานด้วยแนวทางอันล้ำสมัย และความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมของอินฟินิกซ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 260 วัตต์ อันเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญและเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ด้านความเร็วในการชาร์จ นอกจากนี้ยังมีการผสานเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI และผู้ช่วยเสมือน Folax ช่วยยกระดับประสบการณ์และความสะดวกสบายขณะใช้งาน รวมถึงล่าสุดกับการเปิดตัว Infinix NOTE 40 Series ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการยอมรับในนวัตกรรมของแบรนด์ เพราะสมาร์ตโฟนรุ่นนี้โดดเด่นด้วยความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีชาร์จเร็ว All-Round FastCharge 2.0 ที่ขับเคลื่อนโดยชิปประมวลผลอันทรงพลัง Cheetah X1 ซึ่งช่วยให้ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์การชาร์จที่ราบรื่นแก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้อินฟินิกซ์ยังได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณในด้านนวัตกรรมผ่านกลยุทธ์ททางการตลาดที่มุ่งเน้นการสนับสนุนโครงการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) รวมถึง Coding Camp โดยร่วมมือกับองค์การยูเนสโก และ Google ผ่านโครงการ UNESCO CogLabs ที่เสริมสร้างพลังเยาวชนผ่านเทคโนโลยีด้วยการจัดหาทรัพยากรด้านการศึกษาและโอกาสต่าง ๆ การสนับสนุนโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอินฟินิกซ์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม ด้วยผลงานการนำเสนอผลิตภัณฑ์อันล้ำสมัยและความทุ่มเทด้านนวัตกรรมจึงส่งผลให้อินฟินิกซ์ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลกอีกด้วย