TERA หนึ่งใน IT Solution Provider ที่สำคัญของประเทศ ลงสนามเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 24 เม.ย.67  มั่นใจกระแสตอบรับดีเยี่ยม ฟาก “สุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์” เตรียมนำเงินระดมทุนไปใช้ต่อยอดธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตยั่งยืนในอนาคต ฟาก APM ที่ปรึกษาการเงิน ชูจุดเด่นเป็นหุ้น Growth Stock รายได้กำไรเติบโตทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง มีนโยบายและประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ (Dividend Stock) ขณะที่ยังมี Upside เติบโตได้ดีระยะยาว จากฐานลูกค้าที่ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ แนวโน้มธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ตามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ยังสดใส

นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA มั่นใจหุ้น TERA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 เมษายน 2567 จะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งด้านฐานะการเงินและกระแสเงินสด ที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการทำกำไร และมีโอกาสเติบโตสูง บริษัทฯ มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 19 ปี และธุรกิจอยู่ในกลุ่มเมกะเทรนด์   

ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุนในตลาด mai บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในระบบ T.Cloud Gen3: ต่อยอดความสำเร็จจาก T.Cloud Gen1 และ Gen2 ที่ TERA ให้บริการลูกค้ามาแล้ว มากกว่า 7 ปี ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจต่อไปในอนาคต อีกทั้งการระดมทุน จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้ตามแผนและกรอบเวลาที่ทางบริษัทฯได้วางไว้

“บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้านสำหรับการนำหุ้นไอพีโอ จำนวน 90 ล้านหุ้นของ TERA โดยมีราคาไอพีโอ 1.75 บาทต่อหุ้น เข้าซื้อขายวันที่ 24 เมษายน 2567 นี้ ซึ่งจากการนำเสนอข้อมูลต่างๆให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ หรือนักลงทุน ในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่าหุ้น TERA ได้รับความสนใจและการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีมาก” นายสุรสิทธิ์กล่าว

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า TERA จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นที่เป็น IT Solution Provider ที่สำคัญของประเทศ มีฐานลูกค้าที่ครอบคลุมทั้งภาคเอกชนและภาครัฐขนาดกลางและใหญ่ ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบบ Cloud Services ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) รวมถึงระบบบริหารจัดการการขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System: TMS) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจ ดังนั้นจึงมั่นใจว่า TERA จะมีโอกาสขยายธุรกิจได้อีกมากในอนาคต ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สะท้อนจากผลการดำเนินงานสถิติย้อนหลังสามารถทำสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2564-2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 395.88 ล้านบาท 559.98 ล้านบาท และ 604.09 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิ 18.71 ล้านบาท 25.79 ล้านบาท และ 28.96 ล้านบาท ตามลำดับ