ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 2567 เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น เทียบปีที่ผ่านมาผลตอบแทนติดลบ 15.15% ต่างชาติขายหุ้นไทยเฉียด 2 แสนล้านบาท ปัจจัยหนุนหลักมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ขณะที่สถานการณ์สงครามเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลาย ส่งผลราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลดีกับต้นทุนของผู้ประกอบการ

การระดมทุนผ่านการขาย “หุ้นไอพีโอ” เริ่มกลับมาคึกคัก หลายบริษัทฯ ที่เลื่อนแผนระดมทุนในปีที่ผ่านมา จ่อคิวเข้าระดมทุนในปีนี้ รองรับแผนขยายธุรกิจ เสริมแกร่ง เพิ่มโอกาสในการเติบโต ที่ผ่านมา บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) (ADVICE) 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ หุ้นไอพีโอบริษัทแรกของปี 2567 เข้าเทรด SET วันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เปิดตลาดวันแรกอยู่ที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 74.38% จากราคาไอพีโอ 3.24 บาทต่อหุ้น ถือเป็นแรงกระตุ้นสำคัญทำให้บริษัทฯ ที่อยู่ระหว่างการขายหุ้นไอพีโอในปีนี้ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น

นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) (SPREME) ผู้ให้บริการ System Integration (SI) ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ใน วันที่ 2 พฤษภาคม 2567

“แผนการระดมทุนในครั้งนี้ เราเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนรองรับการประมูลโครงการที่มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ”

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,276.41 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,037.50 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของรายได้ดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทฯ สามารถประมูลงานโครงการใหญ่ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบนิเวศน์ศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน กิจกรรมที่ 1 จัดให้มีศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (ศูนย์ดิจิทัลชุมชน) ซึ่งมีมูลค่างานสูงถึง 500 ล้านบาท ในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 156.59 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 99.24 ล้านบาท

ทั้งนี้ SPREME ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเครือข่ายอย่างครบวงจร (SI : System Integrator) พร้อมทั้งให้บริการซ่อมแซม บำรุงรักษา และการให้เช่าอุปกรณ์ โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่าย (ธุรกิจจำหน่ายและติดตั้ง) 2.ธุรกิจให้บริการดูแลบำรุงรักษาและซ่อมแซมระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (ธุรกิจ MA) และ 3.ธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (ธุรกิจให้เช่า) โอกาสการเติบโตของ SPREME เห็นได้อย่างชัดเจนจากการเข้าร่วมประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในช่วงของการปรับตัวให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานการศึกษา การธนาคาร

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกในตลาด Public Safety และ Smart City รวมถึงงานของภาครัฐที่เตรียมออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ทำให้ธุรกิจโตก้าวกระโดด ในฐานะผู้นำธุรกิจผู้ให้บริการระบบเครือข่าย (SI) ครบวงจร