วันที่ 22 เมษายน 2567ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสหลอกลวงพี่น้องประชาชนที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวที่สาธารณรัฐเกาหลี หรือประเทศเกาหลีใต้ โดยการสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันลงทะเบียน K-ETA ปลอม แล้วเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ
โดย ระบบ K-ETA หรือชื่อเต็มคือ Korea Electronic Travel Authorization เป็นระบบที่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนขออนุญาตก่อนที่จะเดินทางเข้าไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อลดปัญหาการปฏิเสธนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าประเทศ และแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าไปทำงานผิดกฎหมาย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องทำการลงทะเบียนล่วงหน้า ซึ่งจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลหนังสือเดินทาง ภาพถ่ายใบหน้า อาชีพ รายได้ต่อปี และข้อมูลที่พักอาศัยในประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งจำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 10,300 วอน (ประมาณ 270 ถึง 290 บาท) ผ่านช่องทางบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
ซึ่งถ้าหากพี่น้องประชาชนหลงเชื่อลงทะเบียนผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน K-ETA ปลอม มิจฉาชีพก็จะได้ทั้งข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ซึ่งสามารถนำไปใช้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเป็นจำนวนมาก เช่น อาจถูกนำข้อมูลบัตรเครดิตไปซื้อสินค้า นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้กระทำความผิด หรืออาจถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในการหลอกลวงในอนาคต อีกทั้งเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน K-ETA ปลอมอาจมีการหลอกให้ชำระค่าธรรมเนียมที่สูงเกินจริง (ค่าธรรมเนียมปกติอยู่ที่ 10,300 วอน) เพื่อหลอกเอาทรัพย์สินจากพี่น้องประชาชนอีกด้วย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังในการลงทะเบียน K-ETA เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยขอให้ตรวจสอบก่อนว่าเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ใช้ลงทะเบียน เป็นของจริงหรือไม่ ซึ่งเว็บไซต์สำหรับลงทะเบียน K-ETA ของจริงคือ www.k-eta.go.kr เท่านั้น ส่วนแอปพลิเคชันลงทะเบียน K-ETA สำหรับโทรศัพท์มือถือ สามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store และ Google Play Store ที่ https://apps.apple.com/th/app/k-eta/id1562976724 และ https://play.google.com/store/apps/details?id=kr.go.keta
สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง