เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงการขวางแก้รัฐธรรมนูญว่า ประการแรกต้องพูดให้ชัดว่าฝ่ายค้านคือพรรคไหนที่ขวางแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายได้ ประการที่สองในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หลักการชัดเจนคือต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นและไม่แตะหมวดหนึ่ง หมวดสอง พรรคได้ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาเมื่อสมัยที่ผ่านมา ทั้งการแก้ไขมาตรา 256 ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ง่ายขึ้นตัดอำนาจ สว. ยื่นแก้ตัดอำนาจ สว. รวมไปถึงการยื่นแก้ไขให้สิทธิขั้นพื้นฐานของพี่น้องประชาชนกลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรม สิทธิผู้บริโภค สิทธิชุมชน เรื่องที่ดินทำกิน เรื่องกระจายอำนาจ รวมไปถึงเรื่องการป้องกันการทุจริตที่ต้องเข้มข้นมากขึ้น และการให้มี สสร. ที่มาจากประชาชนทำหน้าที่ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พรรคแสดงจุดยืนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญชัดเจนมาโดยตลอด และที่ผ่านมาสำเร็จไปเรื่องคือการแก้ระบบการเลือกตั้ง
นายราเมศกล่าวต่อไปว่า ฝ่ายค้านขวางแก้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องถามว่าพรรคไหน เพราะในส่วนของ พรรคอะไรที่ถูกต้องเป็นไปตามหลักการพร้อมให้ความร่วมมือ แต่สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ท้วงติงอย่างสร้างสรรค์ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญเชื่อว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการดำเนินการเพราะไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะขณะนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือทำอย่างไรที่จะนิรโทษกรรมให้กับนายหญิงได้ เพื่อจะได้กลับมาประเทศอย่างเท่ห์ๆ เหมือนนายใหญ่ เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญมากกว่าแน่นอน