บิ๊กทิน" เผยสู้รบในเมียนมา เข้มข้นขึ้น มีผู้อพยพเข้าไทยแต่ไม่น่าวิตก ขอให้สบายใจกองทัพปกป้องอธิปไตยดูแลประชาชนเต็มที่ ด้าน"ปธ.กมธ.ต่างประเทศ" หนุน "นายกฯ" ลงพื้นที่แม่สอด แนะให้เตรียมแผนรองรับผู้อพยพและให้ไทยเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.67 นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ซึ่งติดกับบริเวณชายแดนไทย อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ได้รับรายงานล่าสุด สถานการณ์สู้รบมีความเข้มข้นขึ้น โดยเป็นไปตามความคาดหมายของเรา ทำให้เกิดผลกระทบในฝั่งของประเทศไทย โดยมีผู้หนีภัยการสู้รบมาในประเทศไทย ซึ่งเราได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ที่เราต้องดูแลทั้งสองฝ่าย แม้จะกระทบกับเราบ้าง แต่ไม่มีอะไรที่น่าวิตก
นายสุทิน กล่าวว่า ในวันที่ 23 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะเดินทางไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลด้านความมั่นคง และภายใน 1-2 วันนี้ ตนก็จะลงพื้นที่เช่นเดียวกัน โดยระหว่างนี้ได้กำชับให้ทุกเหล่าทัพรวม ไปถึงฝ่ายปกครองดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
สำหรับที่มีกระสุนที่เกิดจากการสู้รบตกมายังบ้านเรือนของประชาชนในฝั่งไทย นั้น เราจะต้องมีการปรามและเตือน แม้จะทราบว่าเจตนาไม่ได้ทำร้ายเรา แต่ต้องมีการป้องกันเต็มที่ โดยกองทัพอากาศ ได้นำเครื่องบินเฝ้าตรวจทางอากาศตลอดเวลา สามารถสกัดกั้นได้ทันที ทั้งนี้ขอให้ประชาชน ในพื้นที่สบายใจได้ว่ากองทัพของเราสามารถดูแลสถานการณ์ได้ โดยเราได้เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแต่ในบางเรื่องอาจจะสุดวิสัย ส่วนการรายงานด้านการข่าว คิดว่าน่าจะยังคงสู้รบกันไปอีกสักระยะหนึ่ง
ด้าน นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวแสดงความเห็นด้วยที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามปัญหาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่เกิดขึ้นจากการสู้รบในเมียนมาเพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่ทันสถานการณ์เพื่อใช้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ กมธ.การต่างประเทศเคยเสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการติดตามปัญหาเมียนมาซึ่งรัฐบาลได้ตั้งแล้ว อย่างไรก็ดีควรพิจารณาถึงแผนรองรับปัญหาการอพยพ และการสู้รบในเมียนมาและนโยบายเรื่องแรงงานต่างชาติอย่างครอบคลุม
ทั้งนี้ การสู้รบจะทำให้มีผู้อพยพหลั่งไหลหนีภัยสงครามเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ทราบว่ามีจำนวนหลายพันคนแล้ว และยังมีจำนวนที่ตรวจสอบไม่ได้อีกจำนวนมาก ขณะนี้ทราบว่ามีคนต่างด้าวซ่อนตัวในจังหวัดรอบนอกกรุงเทพฯ บ้างแล้ว ประกอบกับปัญหาของคนเมียนมาที่เลี่ยงการเกณฑ์ทหารและอพยพข้ามเข้ามาในไทยมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน เพราะ เราไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่และจะเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายที่ไม่มีเอกสาร
นายนพดล กล่าวว่า กมธ.การต่างประเทศ ขอให้ประเทศไทยผลักดันการแก้ปัญหาและเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากทั่วโลกเพื่อช่วยเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบ โดยประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนความห่วงใยของสังคมโลกเป็นการช่วยเหลือและแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมให้กับชาวเมียนมา