นครพนมโกยปีละกว่า 10 ล้านบาท  ชาวบ้านหนองแต้ ตำบลนาขาม อ. เรณูนคร ทำนากบขายลูกฮวก เพิ่มมูลค่าบรรจุแพ็กเกจแช่แข็ง ส่งออกนอก สร้างงานสร้างอาชีพอาชีพเงินหมุนเวียนสะพัด

นับเป็นอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน  ที่สร้างรายได้มหาศาลมานานกว่า 20 ปี สำหรับชาวบ้านหนองแต้ ต. นาขาม อ. เรณูนคร จ. นครพนม ยึดอาชีพทำนาเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อด หรือลูกฮวก ในช่วงฤดูแล้ง สร้างรายได้หมุนเวียนปีละกว่า 10 ถึง 20 ล้านบาท ล่าสุดมีการเพิ่มมูลค่า นำลูกฮวกบรรจุแพ็คเก็จ แช่แข็ง ส่งขายถึงต่างประเทศ สำหรับการเลี้ยงถือเป็นความชำนาญจากภูมิปัญญาชาวบ้าน  เริ่มจากการนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาเลี้ยงได้อายุประมาณหนึ่งปี ก่อนที่จะจัดพื้นที่นา เป็นลักษณะบ่อน้ำ ความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ขึงรอบด้วยตาข่ายเขียว ก่อนที่จะนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ไปลงบ่อเพื่อผสมพันธุ์ประมาณ 300 คู่ รอระยะเวลาการผสมพันธุ์หนึ่งคืน รุ่งเช้าตักพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ออกจากบ่อ ผ่านไปประมาณ 2ถึง 3 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นไข่กบ ลอยตามผิวน้ำ

จากนั้น รอเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นลูกอ๊อด หรือลูกฮวก หลังผ่านไปประมาณ 2 วัน สามารถให้อาหารได้ โดยจะใช้หัวอาหารปลาดุก เป็นอาหารในการเลี้ยง ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 ถึง 25 วัน สามารถนำส่งขายได้ สำหรับวิธีการตักจะใช้ตาข่ายอวนลาก ขึ้นมาจากบ่อ พร้อม ตักมาช่างน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ก่อนนำไปบรรจุถุง ใส่ออกซิเจน เพื่อสะดวกในการเดินทางส่งไปขาย อยู่ได้ประมาณ 7 ถึง 8 ชั่วโมง ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่เลี้ยงกบขายลูกอ๊อด ไม่เพียงการเลี้ยงกบขายลูกอ๊อดหรือลูกฮวกเท่านั้น ยังมีการเพิ่มมูลค่า ด้วยการนำลูกอ๊อด มาบีบไส้ออกด้วยแรงงานคน เป็นการสร้างงานให้กับชุมชน พร้อมทำความสะอาดและนำไปบรรจุแพ็คเกจ แช่แข็งน้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม ลูกค้าสามารถซื้อไปปรุงเป็นเมนูเด็ด ทั้งแกงออมทั้งหมก ได้แบบสะดวกสบาย

นายสนธยา ฝาระมี อายุ 48 ปี เลขาประธานวิสาหกิจชุมชน แปลงใหญ่ บ้านหนองแต้ ต.นาขาม อ. เรณูนคร จ. นครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่บ้านหนองแต้ ทำอาชีพเลี้ยงเลี้ยงกบกบขายลูกอ๊อด ประมาณ 70 ครัวเรือน เริ่มจากภูมิปัญญาชาวบ้านเลี้ยงขายตามตลาดทั่วไป ปัจจุบันมีการยกระดับทำฟาร์มกบขายลูกอ๊อดขนาดใหญ่ รวมถึงมีการตั้งวิสาหกิจชุมชน เพื่อแปรรูป นำลูกอ๊อดหรือลูกฮวก มาบรรจุแช่แข็ง เพื่อความสะดวกของลูกค้า รวมถึงความสะดวกในด้านการตลาดสามารถนำส่งขายได้ทั่วประเทศ และสามารถเก็บไว้ได้นาน มีราคาขายประมาณกิโลกรัมละ 250 บาท ส่วนหน้าฟาร์มขายลูกอ๊อดสด จะขายกิโลกรัมละ 100 บาท โดยจะทำการเลี้ยงในฤดูแล้งหลังฤดูกาลทำนาเสร็จ เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการขยายพันธุ์ของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ ทำให้ปัจจุบันสามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างรายได้เข้ากับชุมชนประมาณปีละประมาณ 20 ล้านบาท มีทั้งขายในประเทศรวมถึงส่งถึงต่างประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่มีออเดอร์ไปยังประเทศออสเตรเลีย รวมถึงประเทศสิงคโปร์

นอกจากนี้ไม่เพียงการขายลูกอ๊อดเท่านั้น  ยังขายกบชำแหละแช่แข็ง โดยเป็นกบที่เลี้ยงไว้อายุประมาณสามเดือน ในราคากิโลกรัมละประมาณ 250 บาท เป็นแพ็คเกจแช่แข็ง สะดวกต่อลูกค้า ซื้อนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารอีสานรสเด็ด สำหรับอายุพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จะสามารถให้ผลผลิตได้ในระยะระยะเวลาสองปี จากนั้นจะปลดระหว่างส่งขายในราคาถูก และมีการเพาะพันธ์ขยายพันธุ์ เป็นรุ่นเพื่อนำมาผสมพันธุ์ขายลูกอ๊อดต่อไป ถือว่าเป็นอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างรายได้ดีพอสมควร เมื่อถึงฤดูฝนจะหันไปทำนาเป็นปกติ

ส่วนการปรุงอาหาร ส่วนใหญ่เมนูหลักจะนำไปแกงออมใส่เครื่องเคียงสมุนไพร ที่ขาดไม่ได้คือใบชะพลู รวมถึงแกงใส่หน่อไม้ดอง อีกทั้งสามารถนำไปทำเป็นห่อหมก ตามความชอบ ถือเป็นเมนูเด็ดหากินยาก มีราคาแพงขายตามร้านอาหารทั่วไป ถ้วยละ 200 ถึง 300 บาท ยิ่งต้นฤดูมีราคาซื้อขาย หน้าฟาร์ม กิโลกรัมละประมาณ 200 บาท