ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 เวลา 23.50 น.ร.ต.ท.หญิง ขนิษฐา ป้องหมู่ รอง สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี มีคนผูกคอเสียชีวิต เหตุเกิดในบ้านพัก หมู่ 6 ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งได้ พร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระปกเกล้าและกำลังอาสากู้ภัยฯ ร่วมเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว หมู่ 6 ต.พลับพลา ภายในห้องนอนพบศพของ นายสุนันท์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้านพักที่เกิดเหตุ นอนหงายอยู่บนที่นอน หลังจากที่ก่อเหตุใช้เชือกผูกคอฆ่าตัวตาย จนญาติและเพื่อนบ้านมาพบก่อนรีบตัดเชือกช่วยนำร่างลงมาหวังช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน ตรวจสอบในห้อง พบมีเชือกไนลอนสีเขียวผูกมัดติดกับลูกกรงหน้าต่าง ส่วนบนตู้ลิ้นชักข้างเตียง และที่ปลายเท้าด้านขวาบนเตียงนอน มีรูปลูกสาววางอยู่ ส่วนข้าวของเครื่องใช้อยู่ในสภาพปกติ ทางตำรวจจึงได้ถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจชันสูตรเบื้องต้น พบที่ลำคอมีรอยเชือกมัดแน่น ที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาดอากาศหายใจจนทำให้เสียชีวิต ส่วนข้อมือทั้งสองข้าง พบมีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการใช้มีดกรีด
โดย ร.ต.ท.หญิง ขนิษฐา ป้องหมู่ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้สอบถาม นางทองใบ อายุ 74 ปี แม่ของผู้ตาย ให้การว่าปัจจุบัน นายสุนันท์ ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวที่โครงการชลประทานจันทบุรี มาได้ประมาณ 1 ปีเศษ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกชายคิดสั้น น่าจะมาจากเรื่องที่ลูกสาว ของ นายสุนันท์ เพิ่งจะจบ ม.6 จากโรงเรียนในจันทบุรี และได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต แต่เคยเปรยให้คนในครอบครัวฟังว่า กลัวจะไม่มีเงินส่งลูกเรียนจนจบ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ลูกชายเคยก่อเหตุใช้มีดกรีดข้อมือทำร้ายตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ช่วยนำตัวส่งรักษาได้ทัน ส่วนในวันนี้หลังจากช่วงค่ำ ลูกชายได้ไปซื้อเบียร์มาดื่ม 2 ขวดแต่ไม่ได้พูดหรือแสดงความผิดปกติ จากนั้นได้กลับเข้าไปในห้อง จนช่วงดึกที่ผ่านมาเห็นว่าลูกชายยังไม่ออกมากินข้าว ทางด้านพ่อของผู้ตาย ได้เข้าไปดูในห้อง ก็พบว่า นายสุนันท์ ก่อเหตุใช้เชือกผูกคอกับลูกกรงหน้าต่างในสภาพนั่งคุกเข่าจึงได้รีบออกไปเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยตัดเชือกนำตัวลงมา แต่ไม่ทันการ นายสุนันท์ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจ เบื้องต้นได้ประสานกู้ภัยฯนำร่างส่งชันสูตรยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป