ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ริมถนนเรียบคลองสาธารณะ (ข้างวัดโพธิ์แจ้) ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้ร่วมกับ ดร. สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด พร้อมด้วย นายสวงค์ สุขผล กำนันในพื้นที่ เข้าร่วมรับฟังปัญหาของตลิ่งพัง ตามแนวถนนเรียบคลองสี่วาตากล่อม ทั้งนี้ หลังจากที่มีกลุ่มชาวบ้านออกนัดรวมตัวกันเพื่อร้องเรียนถึงความล่าช้าในการซ่อมแซมใหม่ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเส้นทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางสัญจร 

ซึ่งหลังตรวจสอบปัญหาจากผู้ร้องเรียนดังกล่าว ปรากฏว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 2566 (นานกว่า 4 เดือน) จู่ๆก็เกิดเหตุเรื่องหน้าดินที่ริมตลิ่งทรุดตัวและพังทลายลงน้ำ ทำให้ผิวถนนและข้างคลองสาธารณะแตกร้าว จนพังเป็นแนวยาวรวมกว่า 10 เมตร ทั้งนี้จากการสอบถามบรรดากลุ่มผู้ร้องเรียนให้การว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครมาช่วยดำเนินงานในการซ่อมแซมใหม่เพื่อให้มีสภาพกลับมาเหมือนเดิมแต่อย่างใด "โดยล่าสุดทราบว่า มี สนง.ชลประทานฯสมุทรสาคร และกรมเจ้าท่าเขตสมุทรสาคร ในฐานะเจ้าของพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ร่วมกันดูแล (โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง) ทั้งนี้โดยทาง กรมชลประทานฯ ยังไม่ส่งใบอนุญาตให้กับ อบต.บางน้ำจืด ช่วยดำเนินการช่วยทำการก่อสร้างหรือแก้ไขปัญหาให้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สอบถามด้าน ดร.สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวนี้ได้ร่วงเลยผ่านมาแล้วนานกว่า 4 เดือน นำมาซึ่งเกิดเหตุร้องเรียนในครั้งนี้ ที่เกิดดินพังถล่มไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ซึ่งโดยตามขั้นตอนต้องมีการอนุญาตให้ดำเนินก่อสร้างซึ่งหากทำโดยไม่มีใบอนุญาตก็จะผิดกฎหมายได้ อย่างไรก็ตามในที่สุดจึงเหตุผลให้ปัญหาดังกล่าว จนในที่สุดทำให้ต้องเรื้อรังจนติดพลันกันยาวนานหลายเดือน 

ดร. สุบรรณ มานะวิทยาการ ระบุด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณใช้ทำการก่อสร้างซ่อมแซมดังกล่าวนั้น ด้านทางสภา อบต.บางน้ำจืด ก็ได้อนุมัติเงินเพื่อมาใช้งานนี้เป็นวงเงินกว่า 6 ล้านบาท เพื่อทำซ่อมแซมถนนที่เสียหายขึ้นใหม่ โดยตอนนี้กำลังเตรียมเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับจ้างรับเหมาแล้ว

 

ทั้งนี้เมื่อได้รับเอกสารในการยินยอมให้ใช้พื้นที่ในน้ำจาก สนง.ชลประทานที่ 11 (สมุทรสาคร) หรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ โดยจะสามารถลงมือดำเนินการทันที่ในเร็วๆนี้