ในโอกาสที่ ฯพณฯ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบรางวัลงาน “New Zealand Alumni Networking”- สายสัมพันธ์ศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย” จัดโดยหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand) ประจำสถานทูตนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลนิวซีแลนด์ โดยมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์การศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์และส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างประเทศ ได้จัดขึ้นเพื่อสร้างสายสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับศิษย์เก่านิวซีแลนด์ที่มีชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ในภาคส่วนต่างๆ อันมีส่วนสำคัญต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศนิวซีแลนด์ โดยมี ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย คณะผู้บริหารหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ และตัวแทนศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย ให้การต้อนรับ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ

 
 
ในการนี้ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัลเกียรติยศ 2 รางวัล ได้แก่
 
- รางวัลเชิดชูเกียรติยศสมาคมศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย (The Distinguished Service Award) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายและสายสัมพันธ์ของศิษย์เก่านิวซีแลนด์ในประเทศไทย โดยมี นางนพมาศ ไวยรัชพานิช ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่านิวซีแลนด์ เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล
 
- รางวัลเกียรติยศศิษย์เก่านิวซีแลนด์ผู้ทรงคุณวุฒิ (The Eminent Alumni Award) ที่มีผลงานดีเด่นต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทยและนิวซีแลนด์ ซึ่งผู้ได้รับรางวัลได้แก่ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ยังเยี่ยมชมบอร์ดนิทรรศการ New Zealand Alumni Hall of Fame เชิดชูประวัติและผลงานของผู้ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2561 (ค.ศ.2018) – ปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ.2023) จำนวนทั้งสิ้น 18 คน ซึ่งเป็นศิษย์เก่านิวซีแลนด์ที่มีชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ในภาคส่วนต่างๆ อาทิ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม, นายชาคริต เทียบเธียรรัตน์, ดร.ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์, นายปฐมภพ สุวรรณศิริ เป็นต้น
ระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มุ่งเน้นสอนนักเรียนให้คิดเชิงวิเคราะห์ เน้นฝึกการแก้ปัญหาและสร้างกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ช่วยให้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานในอนาคต โดยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จาก The Economist Intelligence Unit เป็นเวลา 3 ปีซ้อน ในการพัฒนาเด็กนักเรียนสู่อนาคตที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์มีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์โลกซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อนักเรียนที่จบการศึกษาที่นิวซีแลนด์มีทักษะที่เหมาะสมกับโลกในอนาคต
นิวซีแลนด์ ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักศึกษาจากนานาชาติกว่า 125 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีรายงานว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี ค.ศ.2023 (มกราคม-สิงหาคม 2023) มีนักศึกษาต่างชาติลงทะเบียนไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ จำนวนทั้งสิ้น 59,306 ราย ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มสูงขึ้นถึง 43% เมื่อเทียบกับตัวเลขของปี 2022 ในจำนวนนี้พบว่า จำนวนนักเรียนและนักศึกษาจากประเทศไทยติดอันดับอยู่ใน 5 อันดับแรก (รองจากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) เติบโตจากก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไทยจัดอยู่ในอันดับ 7
 
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนิวซีแลนด์และประเทศไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตกันมายาวนานกว่า 68 ปี ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และด้านการศึกษา โดยการศึกษานิวซีแลนด์ได้มุ่งส่งเสริมความร่วมมือทางการ ศึกษาระหว่างประเทศ และเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาของไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการความร่วมมือระหว่างกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยโอทาโก้และโรงเรียนจากเมืองดันนิดิน โครงการความร่วมมือระหว่างเครือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลและมหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ โครงการ New Zealand – Thailand Digital Classroom ความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างโรงเรียนในนิวซีแลนด์และโรงเรียนไทยผ่านการทำงานและกิจกรรมออนไลน์ร่วมกันระหว่างครูและนักเรียนไทยกับครูและนักเรียนชาวนิวซีแลนด์ เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที www.studywithnewzealand.govt.nz