เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า #ประชาชนต้องการเงินสดหรือเงินดิจิทัล
คำถามที่ต้องอธิบาย ทำไมจึงคิดว่า เงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐา มีแต่จะสร้างปัญหา เมื่อเทียบกับการแจกเงินสด ที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้ปกติ
เราต้องเอากฏเกณฑ์มาอธิบายนั่นคือ เงินดิจิทัลไม่สามารถใช้จ่าย ได้ทุกอย่างเหมือนเงินสด เช่นจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อแก๊สหุงต้ม เติมน้ำมัน ซื้อเหล้าบุหรี่ จ่ายค่าโทรศัพท์ ซื้อของออนไลน์ รวมทั้งห้ามใช้หนี้ เฉพาะสิ่งเหล่านี้คือปัจจัยพื้นฐานของประชาชน
นอกจากนี้ เงินดิจิทัลกว่าจะมาแปลงเป็นเงินสดได้ ต้องเอาเงินจำนวนนั้น ไปใช้ต่อให้ครบสองรอบ จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
สิ่งที่น่าแปลกใจ ถ้ารัฐบาลอยากแจกเงิน ทำไมต้องแปลงไปเป็นเงินดิจิทัล และแปลงกับมาอีกให้เป็นเงินสด ทำไมไม่แจกเงินสด ไม่ต้องเสียค่าทำแอพ โปร่งใส หรือมีอะไรแอบแฝง แต่ที่แน่ๆประชาชนจะยุ่งยากขึ้น
1.ถ้าประชาชนต้องการเงินสด จะเกิดการขายเงินดิจิทัลเป็นเงินสด และประชาชนจะได้เงินสดน้อยลง เนื่องจากต้องมีการนำไปขายต่อ ถึงสองรอบ ประชาชนจึงถูกหักสองครั้ง
2.ร้านค้ารายย่อย ตลาดนัด แผงลอย แม้จะขายได้เงินดิจิทัล และเอาไปซื้อสินค้าทุน มาลงทุนวันต่อไป แต่เงินกำไรที่จะเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ซื้อแก๊สหุงต้ม หรือแม้แต่ใช้หนี้ จะใช้ไม่ได้เลย สุดท้ายต้องเอาเงินดิจิทัล ไปขายเป็นเงินสด
3.ผลพวงจากข้อ1และข้อ2 จะมีการนำเงินสีเทามาเข้าระบบ เพื่อรับแลกเป็นเงินสดกระจายไปทั้งประเทศ จะเกิดการทุจริตครั้งใหญ่ของประเทศ
4.จากอุปสรรคที่กล่าว เป็นเรื่องปกติที่สินค้าจะราคาแพงขึ้น เพราะร้านค้ารายย่อย ต้องเพิ่มราคาสินค้าไว้สำหรับถูกหัก เมื่อต้องการแลกเงินสด
5.ธุรกิจสะดวกซื้อ รายใหญ่ จะมีผลประโยชน์สูงมาก เพราะเงินดิจิทัล ในปลายทางสุดท้ายจะมากองที่กลุ่มนี้ จึงไม่แปลกที่จะบอกว่า โครงการนี้นอกจากโกงแล้ว ยังอุ้มเจ้าสัว
6.ในระหว่างที่มีเงินดิจิทัลในตลาด และมีเงินสดในตลาด จะเกิดเงินสองระบบขึ้นมาทันที จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของค่าเงินบาท เพราะมีเงินดีกับเงินเลวผสมกันไป แทนที่จะมีเงินบาทปกติระบบเดียว
7.ปัญหานี้ยังไม่นับรวม คนไทยที่อยู่ต่างประเทศนับล้านคน นักโทษในเรือนจำร่วมสามแสนคน สิ่งเหล่านี้ ในระบบเราจะตรวจสอบอะไรไม่ได้เลย
ที่กล่าวมาข้างต้น ผมจึงยืนยันว่า ประชาชนไม่ต้องการเงินดิจิทัล แต่ต้องการเงินสด เงินดิจิทัลจะสร้างความเสียหายตามมาอีกมาก หรือรัฐบาลจะให้สำนักโพลที่ไหนทำดูก็ได้ ว่า "ต้องการเงินสดหรือเงินดิจิทัล"