จากกรณีที่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พบศพชายชาวเมียนมาร์ถูกรถไฟทับศีรษะขาดคารางรถไฟบริเวณซอยพระยามนธาตุ 9 แยก 2 เขตบางบอน ซึ่งภายหลังพบว่าที่ศพมีรอยถูกแทงตามร่างกายหลายจุด ก่อนผลชันสูตรพลิกศพเผยว่า ผู้ตายถูกแทงเสียชีวิต ก่อนจะพบศพถูกรถไฟทับ จึงเชื่อว่าเป็นการอำพรางจัดฉากการเสียชีวิตว่าถูกรถไฟชน
ล่าสุด วันที่ 20 เม.ย.67 หลังจากชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ร่วมกับชุดสืบสวน บก.น.9 ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวเบาะแสถึงตัวผู้กระทำความผิด จนเมื่อวานนี้ ตำรวจ สน.ท่าข้าม ร่วมกับ บก.น.9 สามารถจับกุมชายชาวเมียนมา 2 ราย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้บริเวณซอยเอกชัย 66 เขตบางบอน หลังพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีส่วนกระทำความผิดในการฆ่าเพื่อนร่วมชาติจากกล้องวงจรปิด โดยพบว่า ทั้งสองคนทำงานที่เดียวกันคือร้านซ่อมรถแห่งหนึ่งและรู้จักกับผู้ตาย หลังจากนั้นได้ทำการเข้าตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบเสื้อผ้าที่ทั้งคู่ใส่ในวันก่อเหตุและมีคราบเลือดที่ถูกทิ้งในถังขยะ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ท่าข้าม
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณรางรถไฟจุดเกิดเหตุและปากซอยพระยามนธาตุ 9 โดยผู้ต้องหาได้ชี้จุดเกิดเหตุและสาธิตเหตุการณ์ในคืนก่อเหตุ พร้อมให้การกับตำรวจว่า ในคืนวันที่ 17 เมษายน ประมาณ 5 ทุ่ม ผู้ต้องหา 2 รายได้เดินทางพร้อมกับผู้ตาย มายังปากซอยพระยามนธาตุ 9 เพื่อหลอกล่อให้มาหาผู้ต้องหาอีกรายที่ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี โดยนายอ่องได้เดินออกมารับตามปรากฎในภาพวงจรปิดตัวแรก แล้วจากนั้นจะเห็นว่า ภาพวงจรปิดตัวถัดมา นายอ่องและผู้ต้องหาอีก 2 ราย ร่วมกับผู้ตายเดินมาด้วยกันเพื่อไปนั่งดื่มเบียร์ที่รางรถไฟ
ผู้ต้องหาให้การต่อมาว่า เมื่อมาถึงที่รางรถไฟ ผู้ต้องหาที่ลงมือ และผู้ตายนั่งคร่อมรางรถไฟเพื่อพูดคุยตกลงผลประโยชน์บางอย่าง ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนั่งจับกลุ่มอยู่ไกล สักพักได้ยินเสียงร้องและเห็นว่าผู้ต้องหาลงมือแทงผู้ตายหลายครั้งจนผู้ตายล้มลงนอนคร่อมรางรถไฟ ซึ่งด้วยความตกใจ ผู้ต้องหาจนทิ้งมีดเพราะไม่คิดว่าผู้ตายสิ้นใจในตอนนั้น และทั้ง 3 คนก็หลบหนีตามทางรถไฟมุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟบางบอน ถนนบางขุนเทียน-บางบอน
ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จับได้ในวันนี้ ไม่ใช่มือแทงผู้ตาย แต่เป็นอีกคนหนึ่งที่ลงมือก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาที่ลงมือและผู้ตายมีปัญหาเรื่องทางธุรกิจมานานแล้ว ผู้ต้องหาที่ลงมือวางแผนที่จะฆาตกรรมผู้ตายหลายครั้งและชักชวนให้ตนมาร่วมก่อเหตุด้วย แต่ตนปฏิเสธที่จะไปด้วย ซึ่งผู้ต้องหาที่ลงมือได้ร้องขอและอ้างว่าไม่ต้องมาทำอะไร แค่อยู่เฉย ๆ โดยในคืนก่อเหตุตนได้บอกผู้ต้องหาที่ลงมือแล้วว่า ถ้าจะฆ่าไปฆ่าตรงอื่น แต่สุดท้ายผู้ต้องหาที่ลงมือก็ลงมือแทงผู้ตาย ซึ่งตอนนั้นตนยืนอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ต่อมาหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้วเสร็จ จึงได้ควบคุมตัวทั้งสองส่งฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาธนบุรี โดยพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่จับกุมได้ พบพยานหลักฐานชี้ชัดว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิด จึงได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นห้องพักและจับกุมดำเนินคดี ส่วนผู้ก่อเหตุอีกรายพนักงานสอบสวนเตรียมขออำนาจศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและยังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพว่ารู้เห็นเหตุการณ์และหลอกล่อให้ผู้ตายไปยังที่เกิดเหตุ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งได้ให้การซักทอดว่า ผู้ต้องหาที่ลงมือเป็นมือแทง ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุ เป็นเรื่องมากจากผู้ตายกับนายอ่องขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย