เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทท.2 , พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ รอง ผบก.ทท.2 , พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.1 บก.ทท.2 , พ.ต.ท.วโรดม ใบเรือ , พ.ต.ท.สุทธิรักษ์  ราชประโคน รอง ผกก.1 บก.ทท.2  , สั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐภัทร สุขชื่น สว.กก.1 บก.ทท.2 พร้อมกำลัง ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2566 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์ จำหมายเลขไม่ได้ แจ้งว่าจะมีการคืนเงินประกันไฟฟ้าให้และได้ส่งลิงค์จากการไฟฟ้ามาทางไลน์ ผู้เสียหายจึงได้กดเข้าไปดูระหว่างดาวน์โหลดคนร้ายได้แจ้งว่าไม่ให้ทำอะไร ให้รอและพูดคุยเรื่องต่างๆ และขอบัญชีของผู้เสียหาย จึงได้ให้บัญชีธนาคารไทยพานิชย์ ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของผู้เสียหายดับ ต่อมาโทรศัพท์ใช้ได้ตามปกติ ผู้เสียหายจึงนำไปซ่อมที่ห้างสรรพสินค้า แจ้งวัฒนะ  ทางศูนย์ได้ทำการล้างเครื่อง ต่อมาวันที่ 28 ส.ค.66 ผู้เสียหายได้รับใบแจ้งยอดค่าสินค้ารวมทั้งค่าธรรมเนียมรายปี จึงได้โทรศัพท์ไปยกเลิกค่าธรรมเนียมที่ ห้างสรรพสินค้า จึงทราบว่ามีการเบิกเงินสดผ่านทาง แอพพลิเคชั่น ยูทูป และทราบว่าเงินที่เป็นเครดิตของผู้เสียหายถูกโอนไปยังบัญชีธนาคาร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.66 เวลา 16.38 น. จากนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์สอบถาม ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค.66 เวลา 16.20 น. เงินได้ถูกโอนไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นายอภิสิทธิ์  จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 168,041.60 บาท และเวลา 16.24 น. เงินได้ถูกโอนไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี นายศุภมงคล เป็นจำนวน 3,300 บาท รวมความเสียหาย 171,341.60 บาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมา งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 ได้สืบสวนทราบว่า นายอภิสิทธิ์ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยบ้านหนองขาม3/5 หมู่ 15 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ นายอภิสิทธิ์ ฯ ยืนอยู่หน้าห้องเช่าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ทท.2 จึงได้จับกุมตัว นายอภิสิทธิ์ หรือเอ็กซ์ อายุ 36 ปี ชาว  จ.ขอนแก่น  ฐานกระทำความผิดตามหมายจับ 

1. “ฉ้อโกงประชาชน” ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.624/2566  ลง 19 กันยายน 2566 
(สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี)

2. “เป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 556/2566 ลง 11 กันยายน 2566 (สน.คลองตัน)

3. “ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 104/2566 ลง 11 ตุลาคม 2566 (กก.3 บก.สอท.3)

โดยได้แจ้งแก่ผู้ถูกจับว่า “เขาต้องถูกจับ” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินการต่อไป