เมื่อเวลา 03.15 น. วันที่ 18 เม.ย.67 ร.ต.ท.(หญิง)วราภรณ์ กาฬภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาว ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-อู่ทอง ฝั่งขาเข้าบริเวณหน้าดูบัวคาเฟ่ หมู่ 1 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วงฯ หลังรับแจ้งจึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ประจำจุดรอรับเหตุ ต.ทุ่งสมอ และ ต.วังขนาย เดินทางมารอปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ และพนักงานสอบสวนในการชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุบนถนนพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ กะโหลกศีรษะแตกฉีกขาดหายไปครึ่ง เศษกะโหลกและมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนน เป็นภาพที่อุดจาดตาต่อผู้พบเห็น บนถนนยังพบแผ่นป้ายยี่ห้อรถมิตซูมิตชิตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า น่าจะเป็นของรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูมิตชิคันที่ก่อเหตุ ซึ่งยังไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน ที่หลังก่อเหตุแล้วขับรถหลบหนีไป
จากการตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตายทราบชื่อผู้ตายชื่อนายธีระพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อยู่หมู่ 15 ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำญาติๆ ผู้ตายทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพเป็นคนขับรถเทรลเลอร์ 20 ล้อ บรรทุกต้นไม้มาส่งที่จังหวัดกาญจน์ แต่ระหว่างทางเกิดค่ำมืดเสียก่อน ผู้ตายจึงจอดรถที่บ้านญาติหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.หนองขาวฯ เพื่อรอเวลาให้สว่างแล้วจะนำต้นไม้ไปส่งตามที่อยู่ผู้ว่าจ้าง ส่วนที่ผู้ตายออกไปเดินอยู่ริมถนนสายดังกล่าวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านที่ผู้ตายนำรถไปจอด ซึ่งญาติๆ ไม่มีใครทราบว่า ผู้ตายออกไปทำอะไรบนถนน จึงถูกรถยนต์ต้องสงสัยว่าเป็นรถกระบะยี่ห้อมิตซูมิตชิไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน ก่อเหตุชนแล้วหนี ซึ่งแผ่นรถต้องสงสัยได้ทำแผ่นป้ายยี่ห้อตกอยู่ 1 แผ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.(หญิง)วราภรณ์ กาฬภักดี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้ประสานไปยังตำรวจชุดสืบสวน ให้ช่วยไล่กล้องวงจรปิดจนได้เบาะแสรถผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นรถคันที่ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามเจ้าของรถมาสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนศพผู้ตายได้มอบให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป