สำนักข่าวประเทศรายงานว่า ทางการสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน พร้อมด้วยบรรดาผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู วางแผนที่จะประกาศบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร หรือแซงก์ชัน ต่ออิหร่านเพิ่มเติมครั้งใหม่ เพื่อตอบโต้ที่อิหร่านโจมตีต่ออิสราเอลโดยตรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการส่งโดรนติดอาวุธและขีปนาวุธ จำนวนกว่า 300 ลำ/ลูก โจมตีอิสราเอล แต่ถูกอิสราเอล สกัดได้ถึงร้อยละ 99 เมื่อช่วงก่อนรุ่งสางของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น

พร้อมกันนี้ ทั้งทางการสหรัฐฯ และทางการอียู ก็ยังได้พยายามโน้มน้าวต่ออิสราเอล ไม่ให้ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทวีความตึงเครียดมากขึ้น จนสถานการณ์ความรุนแรงอาจลุกลามบานปลายออกไป

ขณะเดียวกัน ทางด้านทางการอิสราเอล โดยคณะรัฐมนตรีภาวะสงคราม มีกำหนดประชุมเป็นครั้งที่ 3 ในวันพุธนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือเรื่องมาตรการตอบโต้อิหร่าน จากการที่ถูกอิหร่านโจมตีข้างต้น ซึ่งมีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือไอดีเอฟว่า อิสราเอลจะมีปฏิบัติการทางทหารเพื่อเอาคืนต่ออิหร่านอย่างแน่นอน