"เศรษฐา" เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ขอพร "ทักษิณ" พร้อมสวัสดีปีใหม่ไทย ระบุไม่ติดใจ รมต. แห่พบ "อดีตนายกฯ" รดน้ำอวยพรปีใหม่ที่เชียงใหม่ มองรู้จักกันมานาน เป็นเรื่องธรรมดา หลังถูกโซเชียลวิจารณ์หนัก ลั่นไม่มีอะไร รับได้ "ทักษิณ" กระแสดีกว่า "นายกฯ" ยันชัดยังไม่ปรับ "ครม." ขออย่าทำให้รัฐมนตรีหวั่นไหว เดินหน้าทำงานดีกว่าวิ่งเต้น ปัดนั่งควบกลาโหม แค่สนิทกัน แต่ไม่ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาก็ได้ แซวคุยกับรัฐมนตรีพาณิชย์ ทำไมถึงไม่บอกว่าไปควบพาณิชย์บ้าง "ปธ.วิปรัฐบาล" เผย ฝั่ง พท. เตรียมปรับโฉมการทำงานในสภา เน้นทีมงานหลังบ้าน-วิชาการ พร้อมการันตี วิปรัฐบาลร่วมมือกันดี การันตีไม่มีสภาล่ม
ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 16 เม.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางมารดน้ำขอพร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยนายกฯ ได้ลดกระจกรถทักทายสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
โดย นายเศรษฐา กล่าวถึงกระแสการเปรียบเทียบ ภาพถ่ายนายกรัฐมนตรีที่อยู่ กับครอบครัว ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาพถ่ายของคณะรัฐมนตรีที่เดินทางเข้าพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับสื่อมวลชน ว่า "ท่านต้องเป็นคนบอกผมว่าท่านมองอย่างไร ต้องถามมาตรงๆ ผมจะได้ตอบได้"
เมื่อถามย้ำว่าภาพที่ออกมาปรากฏว่ารัฐมนตรีส่วนใหญ่เดินทางไปพบกับนายทักษิณ ที่จ.เชียงใหม่นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐมนตรีรู้จักกับนายทักษิณมานานกว่าตน และนายทักษิณก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทินรองนายกรัฐมนตรี และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้วรมว.สาธารณสุข นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ซึ่งตนคงไม่ต้องเอ่ยชื่อทุกคน เพราะทุกคนรู้จักนายทักษิณมานานกว่าตน และให้การเคารพกันมาอย่างยาวนาน และนายทักษิณเองก็อายุมากกว่ารัฐมนตรีทุกคนอยู่แล้ว จึงเป็นธรรมดาและตนก็ไม่ได้คิดอะไร และเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ หากพยายามจะบอกว่า นายทักษิณได้รับความนิยมชมชอบมากกว่าตนก็ไม่ติดอะไร และรับได้อยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ส่วนวันสงกรานต์ถือเป็นวันครอบครัว และ จ.เชียงใหม่ ก็เป็นจังหวัดที่น่าเที่ยว การรดน้ำดำหัวถือเป็นประเพณีพื้นฐานอยู่แล้ว และนายทักษิณก็เป็นคนที่คนในพรรคให้ความเคารพ
ทั้งนี้ นายเศรษฐาได้เข้าไปไหว้และรดน้ำขอพรพร้อมมอบพวงมาลัยให้กับนายทักษิณ ขณะที่นายทักษิณ ได้รับไหว้และกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ก่อนที่จะได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)
จากนั้นเวลา 10.12 น. นายเศรษฐาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า “ มากราบขอพร และสวัสดีปีใหม่ไทยท่านนายกฯ ทักษิณผู้ใหญ่ที่เคารพครับ ”
วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มี ตนเองไม่ได้บอกว่ามีการปรับ พูดกันเอง แต่จะต้องมีการปรับในวันหนึ่ง อย่าเพิ่งเลย ถ้าปรับเดี๋ยวก็ทราบกันเอง อย่าเพิ่งทำให้รัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาหวั่นไหว มองว่าเร่งทำงานดีกว่า เพราะทุกวันมีค่า แทนที่จะต้องวิ่งเต้นมาหาท่านนั้นท่านนี้
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน พบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คุยปัญหาบ้านเมือง เช่น ข้าวโพด การเผาป่า ความสะอาดบ้านเมือง และสถานการณ์เมียนมา
เมื่อถามว่าจะต้องเคลียร์กับรัฐมนตรีที่อยู่ในโผหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคลียร์ ตนเองไม่ได้เป็นคนเขียน ไม่เคลียร์อยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า อยากให้ทุกท่าน ตั้งใจทำงานใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองพูดมาตลอดในระยะหนึ่งเดือนที่มีข่าวปรับ ครม. ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน การทำงานที่ถูกต้องดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล แต่ละกระทรวงก็มีนโยบายเรือธง ทุกท่านทราบอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่อยากจะปรับ ครม. ยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมา เขาทราบอยู่แล้ว เป็นสิทธิของเขา ถ้าอยากจะปรับ ตนเองคงไม่โทรไปถามว่าอยากปรับใครบ้าง เช่น พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังมีเก้าอี้เหลืออยู่ 1 เก้าอี้ ซึ่งกระแสข่าวที่ระบุว่าตนเองจะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น ไม่ทราบ คงเป็นเพราะตนเองไปเยี่ยมทหาร และมีความสนิทส่วนตัวกับ ผบ.เหล่าทัพ ยกหูคุยกันได้ ถือว่าเป็นหน้าที่อยู่แล้ว ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ช่วยดูแลเรื่องชายแดน พื้นที่ทำกินของประชาชนก็ตอบสนองได้ดี ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะสถาบันทหาร และสถาบันความมั่นคง มีความเป็นมืออาชีพ มีวินัย หากนายกรัฐมนตรีขอในเรื่องที่เหมาะสมและถูกต้อง ทุกคนก็พร้อมที่จะทำให้อยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดคุยหรือมโนภาพว่าจะต้องเป็นอะไร
นายกรัฐมนตรี ทิ้งท้าย ตนเองคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลัดฯ หรืออธิบดีฯ ในกระทรวงพาณิชย์อยู่แล้ว ทำไมถึงไม่บอกว่าตนเองจะไปควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บ้าง เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว ไม่มีนัยยะอะไร
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงสถิติการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ดีขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะการจราจร ต้องขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตนเชื่อว่าได้ไปกำกับดูแลจริงๆ และเมื่อวานนี้คนเริ่มเดินทางกลับจำนวนมาก แต่ถนนพระราม 2 ก็ไม่ติดเลย นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยังตรวจจับ เมาแล้วขับ ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงเทศกาลสงกรานต์ เท่าที่ติดตามข่าวและข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รวมถึงข้อมูลการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบิน รถไฟ หรือ บขส. คนก็แน่น และหลายจังหวัดมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่กรุงเทพมหานครก็ท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน ตนดีใจที่ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงหรือทะเลาะวิวาทกันก็เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับปีใหม่ไทย ทั้งนี้ ถือว่าวันมหาสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการท่องเที่ยว เพราะมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก
เมื่อถามว่าการจัดการสนามบินหรือท่ารถที่ได้ลงพื้นที่ไปดูมาดีขึ้นหรือไม่ เพราะประเทศไทยอาจจะต้องรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม นายเศรษฐา ระบุว่า ดีขึ้นมาก พบว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา มีกว่า 12ล้านคนแล้ว ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว 140% ต่ำกว่าช่วงสูงสุดแค่ 10 % ตนเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุด และเชื่อว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเองก็จะมีการปรับปรุงระบบ ทำให้คนที่เข้ามาไม่ต้องรอนาน
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร เตรียมยกเครื่องใหม่ ให้เข้มแข็งกว่าเดิม ทั้งในมุมวิชาการ การอภิปรายและ ตอบโจทย์ เป็นที่คาดหวังของประชาชน โดยจะเสริมส่วนของนักวิชาการที่เป็นฝ่ายสนับสนุนการทำงานของสส.ให้มากขึ้น การทำงานในสภาฯ ทั้งการอภิปรายและกรรมาธิการ ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนการทำงานในสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้พรรคสนับสนุนเต็มที่ และต้องการทำให้การทำงานมีความทันสมัยมีความน่าเชื่อถือ
“เราเป็น สส.บ้านนอกที่เสียเปรียบเรื่องวิชาการ เพราะทำแต่เรื่องชาวบ้าน ดังนั้นงานสภาในสมัยหน้าจะเปลี่ยนลุคใหม่ ทุ่มเทการทำงานอย่างเข้มแข็ง ทั้งการอภิปรายและงานในกรรมาธิการที่ดีกว่าเดิม เพื่อให้สู้กับพรรคอื่นๆ ให้ได้” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการทำงานร่วมกันในสภาฯ ของวิปรัฐบาลได้รับความร่วมมืออย่างดี โดยได้หรือกัน กำชับเรื่องเป็นองค์ประชุมสภาฯ ไม่ให้ล่มเด็ดขาด โดยตนเป็นประธานวิปรัฐบาลต้องดูแล ทำงานเต็มที่และตรวจสอบด้วย เพื่อให้ทุกคนทำงานอย่างเข้มแข็ง และที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดี ได้รับการสนับสนุนการทำงานเต็มที่
“ต่อจากนี้งานในสภาฯ สส. จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ทั้งในสภาฯ และ ดูแลชาวบ้าน สส.ที่เป็นรัฐมนตรีไม่ต้องห่วงงานสภาฯ ยืนยันว่าราบรื่น เรียบร้อยแน่นอน” นายวิสุทธิ์ กล่าว