วันที่ 16 เมษายน 2567 พ.ต.ท.วงศกร แต่งตั้ง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุฆาตรกรรม ภายในห้อง 210 โรงแรมแห่งหนึ่ง  ซ.วุฒากาศ14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนำกำลังไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผบก.น.8  พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ชรินทร์ บัวเผื่อนหอม ผกก.สน.ตลาดพลู ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บกน.8 ฝ่ายสืบสวน สน.ตลาดพลู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
  
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 5 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ที่ห้อง 210 ชั้น 2 ภายในห้อง ปลายเตียงริมกำแพง ใต้โต๊ะกินข้าว พบศพ น.ส.สุกัญญา   อายุ 51 ปี อยู่บ้าน  ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงยีน มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัวทั้งหน้า-หลัง รวม 31 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายสภาพแบตฯหมดตกอยู่ พร้อมกับมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเปื้อนเลือด บริเวณหน้าห้องน้ำยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวางชาร์จแบตไว้อีก 1 เครื่อง

 ระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีเจ้าหนี้โทรฯเข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย ภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน เลือดกระจายเปื้อนกำแพงไปทั่วห้อง ยาวจนไปถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ

สอบถามพนักงานต้อนรับให้การว่า  ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ชายเป็นชาวอินเดียมาพักอยู่ด้วย ซึ่งผู้ตายจะมาที่ห้องนี้ช่วงเช้าของทุกวัน และกลับไปช่วงค่ำ โดยฝ่ายชายชาวอินเดีย ใช้รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 1กว 623 นครปฐม ก่อนเกิดเหตุ ช่วงใกล้เที่ยงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องเกิดเหตุ จึงโทรศัพท์ขึ้นไปหาผู้เช่า ปรากฏว่า ฝ่ายชายเป็นผู้รับ แล้ววางสายถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงทะเลาะก็เงียบไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งบ่ายโมงเศษ เห็นชายคนดังกล่าวเดินลงมาจากชั้น2 โดยทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น 

ทางน้องสาวผู้เสียชีวิต (ไม่ประสงค์ออกนาม) บอกเล่าว่า  ตนไม่รู้เลยว่าพี่ตนทำอะไร จนมารู้อีกที่ว่าพี่ตนตายแล้ว ก็ไม่รู้จะบอกว่าอะไร ปกติอยู่กับพี่สาวตลอด อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อเช้าพี่ตนก็พาแม่ไปฟอกไต ไปกับพี่เลี้ยงอีกคน ประมาณ 08.30 น.พอส่งแม่เข้าห้องฟอกไตก็เลี่ยงออกมาธุระ เค้าไม่ได้บอกว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าเดี๋ยวบ่ายๆจะกลับมา มารู้ตอนบ่าย 3 โมงแล้ว รู้จากหลานอีกที แต่ตำรวจแจ้งไปทางพี่เขยตนว่าถูกฆาตกรรม ยังไม่เห็นสภาพพี่สาวเลย ตอนนี้เค้ารู้ตัวแล้วเห็นว่าขึ้นรถตู้ไปแล้ว ตอนนี้กำลังจะออกหมายจับ เป็นชายชาวอินเดีย ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชายคนนี้เลย เพราะตนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน 

ด้านนายโกมินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต บอกเล่าว่า ตนและที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม่เลย แม่ปิดกั้นเรื่องนี้มาตลอด เช้าก็ออกไปทำงาน กลับมาก็ปิดโทรศัพท์ ปกติออกไปก็ตี 5 บ้าง 6 โมงบ้าง เย็นก็กลับเข้ามา 6 โมงนิดๆ หรือ 1 ทุ่มบ้าง แม่ทำงานเป็นแม่บ้าน แต่ไม่รู้ที่ไหน เพราะเปลี่ยนหลายที่มาก แม่ก็อยู่กับพ่ออยู่กับที่บ้านด้วยกัน ส่วนผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เมื่อเช้าแม่บอกว่าจะพายายไปฟอกไต แต่มาโผล่ที่นี่ก็ยัง งงอยู่เลย ว่ามาเกิดเหตุที่นี่ได้ยังไง

ก่อนหน้านี้แม่บอกว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ุ เคยโดนเรื่องแฮกเฟซบุ๊ก ไปแจ้งความจับ และถูกส่งกลับประเทศไปแล้ว รูปชายคนนี้เคยเห็นในเฟซบุ๊ก  ถามแม่ก็บอกว่าโดนแฮกเฟส เบี่ยงเบนเฉไฉไป พ่อก็ถามก็บอกว่าโดนแฮกเฟสตลอด แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่เพราะดูจากการถ่ายรูปดูสนิทสนมกันมาก ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว แต่แม่บอกไม่ใช่ คิดว่าน่าจะคบกันนานแล้ว ถ้าไม่นานไม่น่าจะมานอนกันแบบนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีบาดแผลพอถามก็บอกว่าตกรถ รอยช้ำตามแขนตามหลัง พอตอนนี้มาเกิดเรื่องและเห็นภาพ ก็กลัวว่าคนร้ายจะหนีออกนอกประเทศ ส่วนทรัพย์สินไม่มีอะไรหายไป คิดว่าปมเหตุน่าจะมาจากเรื่ิองเงินมากกว่า หวังว่าตำรวจจะตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด

จากการตรวจสอบรายชื่อคนร้ายรายนี้ชื่อนายยาเดฟ อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย ซึ่งถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาเช่ารถจยย.ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ขี่รถจยย.มาพักอยู่กับ น.ส.สุกัญญา ที่แอบคบหากันในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่ง น.ส.สุกัญญา มีอาชีพเป็นแม่บ้าน โดยสามีทำงานรับเหมาปูกระเบื้อง ผู้ตายจะบอกกับลูกทุกวันว่าออกไปเยี่ยมยายที่ป่วยติดเตียง ที่บ้านพักย่านจอมทอง แต่ไม่เคยไปถึงบ้านยายเลย ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้เดินไปขึ้นจยย.รับจ้างหน้าปากซอยวุฒากาศ 14 ว่าจ้างให้ไปขึ้นรถตู้ที่วินข้างห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ระบุปลายทางไป อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจ จ.กาญจนบุรี และระดมกำลังกันไปที่จ.กาญจนบุรี  เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้เป็นการด่วน
  
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เร่งออกหมายจับให้ได้ภายในวันนี้และคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้