เอ่ยถึง “สหรัฐอเมริกา” เจ้าของฉายา ถิ่นลุงแซม ก็ได้ชื่อว่า เป็น ดินแดนที่ดึงดูดบรรดานักล่าฝัน ทั้งจากในสหรัฐฯ เอง และผู้คนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก จนมีคำกล่าวที่พูดกันฮิตติดปากว่า “อเมริกันดรีม (American Dream)”
ทั้งนี้ ก็ด้วยผู้คนทั้งในสหรัฐฯ และจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่เดินทางเข้าไปในสหรัฐฯ ต่างก็มุ่งหวังที่จะได้ทำงาน ได้รับการจ้างงาน หรือประกอบอาชีพ ทำมาหาเลี้ยงชีพต่างๆ รวมไปถึงหวังที่จะได้ตั้งตัว ลงหลักปักฐาน ในสหรัฐฯ แดนดินถิ่นลุงแซมที่เต็มไปด้วยความฝันแห่งนี้
โดยประเทศสหรัฐฯ ก็มีเมืองต่างๆ รวมแล้วราว 380 เมืองในพื้นที่ 50 รัฐ ทั้งในแผ่นดินใหญ่ภาคพื้นทวีป และที่อยู่นอกออกไป เช่น รัฐอะแลสกา และที่อยู่นอกชายฝั่งในสภาพที่เป็นเกาะ คือ รัฐฮาวาย ซึ่งผู้คนทั้งจากสหรัฐฯ และจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็พำนักอาศัยกระจายไปในเมืองเหล่านี้ โดยอาจจะมีบางเมือง ที่เป็นย่านชุมชนของผู้คนที่อพยพมาจากประเทศเดียวกัน เช่นที่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็มีประชาชนคนไทยที่อพยพเข้าไปอยู่สหรัฐฯ รวมตัวพำนักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นจัดเป็นชุมชนคนไทยในอเมริกากันเลยทีเดียวก็ว่าได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมืองต่างๆ ซึ่งมีอยู่ราว 250 เมืองเหล่านี้ของอเมริกา ก็หาได้เป็น “ตลาดงาน” หรือ “จ็อบ มาร์เก็ต (Job Market)” โดดเด่นดีเท่ากันหมดทุกเมืองก็หาไม่ โดยมีแต่ละเมืองมีความโดดเด่น หรือไม่ก็เป็นที่นิยมแตกต่างกันออกไป ถึงขนาดมีการจัดทำอันดับในความร้อนแรง หรือฮิตฮอต ที่ผู้คนนิยม ยอมอพยพ เดินทางที่จะเข้าไปทำงานตามเมืองต่างๆ รวมไปถึงระดับรัฐกันเลยทีเดียว ซึ่งที่สหรัฐฯ ก็ดำเนินการจัดอันดับข้างต้นมานานนับสิบปีแล้ว
ผลการจัดอันดับในปีนี้ ก็ปรากฏว่า “ซอลต์เลกซิตี” หรือที่ผู้คนในสหรัฐฯ มักจะเรียกกันย่อๆ ว่า “เอสแอลซี” (SLC : Salt lake City) คว้าอันดับ 1 ในตำแหน่ง “เมืองตลาดงานที่ร้อนแรงที่สุดของประเทศ” ไปครอง (Hottest job market) ภายหลังจากบรรดานักวิเคราะห์ ได้ใช้หลักจาก 5 ปัจจัยมาศึกษาวิจัยในการจัดอันดับ ได้แก่ อัตราคนว่างงาน อัตราการมีส่วนร่วมของพนักงานในสถานที่ทำงาน โอกาสการเปลี่ยนแปลงขั้น หรือเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ในหน้าที่การงาน จำนวนคนในตลาดงาน และอัตราค่าแรงค่าจ้างในการทำงาน
โดย “ซอลต์เลกซิตี” แห่งนี้ ก็ดำรงสถานะเป็นเมืองหลวงของ “รัฐยูทาห์” เมื่อนครหลวงได้รับการประกาศเช่นนั้น ส่งผลให้ทางรัฐ คือ สภาท้องถิ่นแห่งรัฐยูทาห์ ประกาศยกย่องว่า รัฐของพวกเขาคว้าอันดับที่ 1 เป็นปีที่ 17 ของรัฐที่ได้รับการประเมิน หรือประมาณการว่า มีแนวโน้มทางเศรษฐกิจดีที่สุดของประเทศอีกด้วย
เหตุปัจจัยก็มาจากที่เมืองซอลต์เลกซิตี เป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนที่ต้องการเดินทางมาทำงานในเมืองแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนถูกยกย่องให้เป็นเมืองตลาดงานที่ได้รับความนิยมอย่างร้อนแรงตามที่มีการจัดอันดับข้างต้น เมื่อมีผู้คนเดินทางเข้าไปในเมืองเป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีรายได้จากการทำงาน ก็ย่อมจะต้องมีการใช้จ่าย จับจ่ายใช้สอยเพื่อยังชีพในแต่ละวัน ก็ส่งผลให้เงินสะพัดในซอล์ตเลกซิตี และทำให้เมืองหลวงของรัฐยูทาห์แห่งนี้ เศรษฐกิจขยายตัวเติบโตยิ่งกว่าเมืองไหนๆ รัฐไหนๆ ในท้ายที่สุด
ว่ากันถึงสถานการณ์ในความเป็นตลาดงานที่ร้อนแรงของซอลต์เลกซิตีนั้น ตามที่บรรดานักวิเคราะห์เข้าไปศึกษาติดตามทั้งในช่วงปีนี้ และปีก่อนๆ หน้า ก็พบว่า ท่ามกลางที่หลายๆ เมือง บรรดากิจการต่างๆ หรือแม้กระทั่งเหล่าบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย ที่กล่าวกันว่า พนักงานสายการทำงานนี้ตกงานกันค่อนข้างยากนั้น ก็ยังต้องปลดพนักงานออกจากงานไปมิใช่น้อย จากการได้รับผลกระทบจากเหตุปัจจัยสารพัด เช่น ผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 เป็นต้น
ทว่า ปรากฏว่า บรรดากิจการ บริษัท ห้างร้านต่างๆ เหล่านั้น ใน “ซอลต์เลกซิตี” ยังคงมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า พนักงานยังคงมีงานทำอยู่ต่อไป ไม่ถูกเลิกจ้าง หรือปลดออกจากงานแต่อย่างใด
โดยเหล่านักวิเคราะห์ ระบุว่า สถานการณ์การจ้างงานในเมืองซอลต์เลกซิตี ยังคงดำเนินต่อไปอย่างแข็งแกร่งอีกต่างหากด้วย ชนิดที่วิกฤติต่างๆ หรือแม้กระทั่งการแพร่ระบาดของโรคร้ายนั้น มิอาจทำให้การจ้างงานในซอลต์เลกซิตีระคายผิวกันสักเท่าไหร่ โดยสังเกตได้จากบรรดาภาคเศรษฐกิจที่หลายหลากต่างๆ เหล่านั้น ยังสามารถฟันฝ่าจนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ถือได้ว่า ท้าทายเป็นที่สุดข้างต้นมาได้ด้วยดี แถมมิหนำซ้ำยังยืนหยัดมาได้อย่างมั่นคงอีกต่างหากด้วย
ทั้งนี้ ในการจ้างงานในตลาดงานของเมืองซอลต์เลกซิตีนั้น ก็นับว่ามีความหลากหลาย โดยมีทางเลือกสายงานต่างๆ มิใช่จำกัด หรือมุ่งไปด้านเทคโนโลยีและภาคการเงินเท่านั้น ทว่า ยังมีสายงานอื่นๆ รองรับผู้คนที่จะมาทำงานหลายอาชีพ ก็เป็นอีกสาเหตุปัจจัยหนึ่งทำให้สถานการณ์ตลาดงานของเมืองหลวงแห่งรัฐยูทาห์แห่งนี้ มีความแข็งแกร่ง ยิ่งกว่าเมืองอื่นๆ
พร้อมกับยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับเขต “ซิลิคอนแวลลีย์” ในนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย กับเขต “ซิลิคอนสโลป” ใน “ซอลต์เลกซิตี” ซึ่งเป็นย่านสถานทำงานด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยด้วยกัน ปรากฏว่า คนทำงานสายเทคโนโลยีจำนวนไม่น้อย หันมาเลือกทำงานที่ซิลิคอนสโลป ที่นอกจากการทำงานเทคโนโลยีที่เหมือนๆ กันกับที่ซิลิคอนแวลลีย์แล้ว แต่มีทิวทัศน์ที่สวยงามจากเทือกเขาวาซัตช์
ในการเปรียบเทียบอันดับระหว่างเขตทั้งสองนี้แล้ว ปรากฏว่า อันดับทิ้งห่างกันไกล โดยซิลิคอนแวลลีย์อยู่ในอันดับที่ 29 เท่านั้น ซึ่งมีรายงานว่า คนทำงานที่เคยทำงานในนครซานฟรานซิสโก และนครลอสแอนเจลิส ต่างพากันย้ายที่ทำงานใหม่มาทำงานกันซอลต์เลกซิตีกันมิใช่น้อย
ว่ากันถึงในส่วนของตัวเลขของอัตราการว่างงานและการจ้างงานของซอลต์เลกซิตีแห่งนี้ ก็นับว่าเป็นเมืองที่อัตราการว่างงานน้อยที่สุดของสหรัฐฯ ก็ว่าได้ โดยอยู่ที่ร้อยละ 3.9 ส่วนอัตราการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี ซึ่งเหตุปัจจัยก็มาจากความร้อนแรงของตลาดงานของซอลต์เลกซิตี ที่เป็นที่ฮิตฮอตของผู้คนที่มุ่งหน้ามาทำงานที่มีหลายสายงานให้เลือกทำกันนั่นเอง