จากกรณีนายจารึก  อายุ 56 ปี  ชาวบ้านศรีวัฒนา ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลอนและคลั่งยาหนัก ถือมีดดาบยาวกว่า 1 เมตรบุกเข้าไปยังบ้านเลขที่  105 หมู่ 8 บ้านศรีวัฒนา ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.รัตนาพร วิลแลง อายุ 62 ปี หรือ ป้ารัตน์ และสามีคือนายร์อีวอง อายุ 58 ปี ชาวเบลเยี่ยม  โดยคิดว่าเมียฝรั่งเป็นเมียของตนเอง 

ล่าสุดวันที่ 15 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบครอบครัวนายร์อีวอง และภรรยา โดยทั้งสองคนบอกว่า หลังมีข่าวออกไปว่าคนหลอนยาบุกบ้าน เวลา 17.00 น.วานนี้ พ.ต.อ.จตุรงค์ กลิ่นศรีสุข ผกก.สภ.ดงเย็น ได้สั่งการให้สายตรวจและตร.ชุดสืบสวนเดินทางมาพบสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นและแนะนำให้แจ้งความดำเนินคดี ฐานบุกรุกในยามวิกาล ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นระดับหนึ่ง เมื่อคืนกินข้าวได้แล้ว หลังจากกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับสนิทมาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่นายจารึกบุกบ้าน  ขณะเดียวกันยังเปิดอกพูดคุยกับนายจารึกก่อนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไรกันแน่ แต่ที่รู้แน่ๆ คือเกิดจากการหลอนยาแน่นอน แต่ต้องมาคุยกันก่อนเพราะครอบครัวเราไม่เคยมีปัญหากับเขา

ต่อมานายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดตและผู้สื่อข่าว รับอาสาเป็นตัวกลางจะเรียกมานายจารึกมาพูดคุยกันก่อน จึงเดินทางไปที่กระท่อมนาของนายจารึกพบนอนสบายใจอยู่ที่เตียงใต้กระท่อมปลายนา เบื้องต้นสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถือมีดบอกเข้าไปบ้านของเมียฝรั่ง นายจารึกดูท่ายังมีอาการหลอนยา บอกว่า ผมอยู่ยากครับ มีคนจะตามฆ่า ต้องถามผมนะ ถ้าไม่ถามผมจะพูดไม่ได้ อย่าใช้คำว่าผมหลอนกับผม ต้องถามคนแถวนี้ ผมไม่ได้เสพมาแล้ว 1 อาทิตย์ เพราะผมอยากจะเลิกยา ผมเสพมานานไม่ดีขึ้นเลยและไม่เหลืออะไรเลย ลูกสาวส่งมาให้เดือนละ 4,000-5,000 บาท  ตอนนี้ผมเหมือนคนสูญเสีย ลูกเมียไม่เหลือซักอย่าง เมียก็เลิก ลูกก็ไม่สนใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลุงจารึกเข้าใจว่าเมียฝรั่งเป็นเมียตัวเองหรือ นายจารึกก็บอกว่า ไม่ใช่ๆ แต่เมียและลูกผมอยู่บ้านหลังนั้นด้วย  ผมจึงไปตามหาวิ่งหลบผมทุกวัน เมียและลูกผมบ้านหลังนั้นจริงๆ  ผมก็อยากหลุดพ้นเรื่องนี้  จากนั้นนายวีระพล ถามว่า อยากพูดคุยกับทางป้ารัตน์และมิสเตอร์ตุ่นมั้ย นายจารึกก็พยักหน้าบอกว่า อยากจะคุยด้วยเหมือนกัน

ต่อมานายจารึกนั่งรถตู้ไปเผชิญหน้ากับครอบครัวนายร์อีวอง แต่คุยกับนายจารึกไม่รู้เรื่อง  ก่อนที่นายจารึกจะยอมรับผิดที่ถือมีดดาบเข้ามาวันนั้น เพราะมีคนจะตามฆ่าผม และยอมยกมือไหว้ขอโทษ