ทหารเมียนมาค่ายเมืองผาซอง รัฐคาเรนนี เหลือกำลังรบไม่ถึง 100 นายแต่ยังต่อสู้อย่างทรหด ขณะที่ กำลังเสริมจากพล.ร.เบาที่ 66 ที่ถูกส่งมาช่วยถูกโจมตีละลายถึง 2 กองพัน ผบ.พัน รอง ผบ.พัน ผบ.ร้อย ถูกจับกุมตัวเป็นเชลยหลังสู้รบทั้งวันจนยอมแพ้โดยสิ้นเชิง
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี / KA เปิดเผยถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลัง KNDF,PDFและKA ในเมืองผาซอง อ.ผาซอง จ.ลอยก่อว์ รัฐคาเรนนี ว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กองกำลังผสมคาเรนนี สามารถจับกุมเชลยศึกจำนวน 58 นาย เป็นทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 515 และ 516 ขึ้นตรงต่อกองพลทหารราบเบาที่ 66 โดยทหารเมียนมาทั้ง 2 กองพันได้ยอมแพ้ต่อกองกำลังผสม หลังปะทะกันนานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่ถูกจับเป็นเชลยศึก ประกอบด้วย ผบ.พัน , รองผบ.พัน , ผบ.ร้อย และพลทหาร ซึ่งทางกองกำลังผสมได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่บ้านแม่แสะ ตรงข้ามช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ในวันนี้ (14เม.ย.67)
กำลังทหารจากพล.ร.เบา 66 ที่ถูกส่งมาเพื่อสนับสนุน กองพันทหารราบที่ 134 , 135 และ กองพันที่ 1 สังกัดกองพลทหารราบเบาที่ 66 ที่ยังติดในวงล้อมของกองกำลังผสม โดยคาดว่าเหลือกำลังรบเพียงไม่เกิน 80 นาย ประกอบด้วยกองพันทหารราบที่ 134 , 135 และ กองพันทหารราบที่ 1 สังกัดพล.ร.เบา 66 และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 100 กว่านาย โดยทางกองกำลังผสม ได้ทำการปิดล้อมและซุ่มยิงด้วยสไนเปอร์ และใช้โดรนติดระเบิดโจมตีทุกวัน เพื่อกดดันให้ทหารเมียนมาทั้ง 3 กองพันให้ยอมแพ้ แต่ทหารเมียนมาก็ยังคงพยายามต่อสู้กับกองกำลังผสมอย่างทรหด อย่างไรก็ตาม ทางกองกำลังผสมได้ทำการปิดล้อมปิดเส้นทางส่งเสบียงบำรุงกำลัง รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารเมียนมาไว้ทุกช่องทาง แต่การจะเข้าโจมตีเพื่อยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากทหารเมียนเมียนมาได้วางกับระเบิดไว้อย่างหนาแน่นอย่างไรก็ตาม คาดว่าในอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ ทหารเมียนมาค่ายผาซอง จะต้องยอมแพ้เมื่อกองกำลังสนับสนุนไม่มีและขาดแคลนอาหารและอาวุธกระสุนอย่างหนัก
สถานการณ์ตามแนวชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงแม้จะมีการสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังผสมกะเหรี่ยงคาเรนนี อย่างหนัก แต่การค้าชายแดนยังคงเป็นปกติ ช่องทางการค้าบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง และช่องทางการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น ต.แม่เงา อ.ขุนยวม ยังคงมีการส่งออกสินค้าและนำเข้าเป็นปกติ เพียงแต่มูลค่าการค้ายังไม่มากเหมือนก่อนหน้าที่จะมีการสู้รบกัน