ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ได้รายงานผลการปฎิบัติงานตรวจค่าของแคดเมี่ยม จากหลายหน่วยงานกรณี ในพื้นที่ซึ่งจุดที่พบทั้ง 3 จุด ซึ่งเป็นคำสั่งประกาศจากทางจังหวัดฯ หลังห้ามเข้าพื้นที่ รง. ปรากฏว่า จากการตรวจสอบด้านสุขภาพของประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ บริษัทจำนวน 34 ราย เมื่อ 9 เมษายน 3567 โดยพบว่า ชาวบ้านบางรายมีอาการผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง จำนวน 4 ราย ซึ่งเบื้องต้นจึงทำการรักษา พร้อมให้คำแนะนำหลังการปฏิบัติดูแลสุขภาพตนเอง ส่วนการตรวจปัสสาวะมีจำนวน 34 คน 

"ปัจจุบันมีผลตรวจออกมาแล้ว 33 คน ซึ่งพบค่าแคดเมียมอยู่ในเกณฑ์ปกติ 17 คน ทั้งนี้มีที่เกินค่ามาตรฐาน จำนวน 16 คนที่มีผลตรวจเกินค่าอ้างอิง จากทีมสอบสวนโรคดำเนินการสอบสวนโรค โดยไม่ได้ยืนยันว่า การปนเปื้อนสารแคดเมียมมาจากแหล่งใด" 

ขณะที่ด้านกรมควบคุมมลพิษ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 และสนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯสมุทรสาคร ได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำภายในโรงงานดังกล่าวและบริเวณโดยรอบ รง. เพื่อค้นหาสารปนเปื้อน และสารแคดเมียมในดินและอากาศ ซึ่่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บกากอุตสาหกรรม ที่ยังไม่ได้ผ่านการหลอมมีปริมาณแคดเมียม 19%, เก็บตัวอย่างดินนอกโรงหลอมมีปริมาณแคดเมียม 17% ส่วนการเก็บตัวอย่างดินในโรงหลอม มีปริมาณแคดเมียม 21% 

สำหรับการตรวจดินหน้ารั้วโรงงาน มีปริมาณแคดเมียม 12% และดินบริเวณชุมชนเหนือลมและท้ายลม ในระยะ 10 เมตร ไม่พบปริมาณแคดเมียม ได้ตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ และเก็บตัวอย่างน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะบริเวณใกล้เคียงโรงงานของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เพื่อนำไปตรวจหาค่าต่อไป"

  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนความคืบหน้าจากที่มีพนักงานที่ถูกตรวจพบแคดเมียมในร่างกาย ล่าสุดกลับบ้านได้แล้ว เหตุไม่พบสิ่งผิดปกติ เพียง คอยเฝ้าติดตามดูอาการในระยะหนึ่ง โดยด้าน นายแพทย์ สุรวิทย์ ศักดานุภาพ สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของการบำบัดรักษาตัวให้คนงาน ในซอยกองพนันพล ต.บางน้ำจืด ซึ่งเป็น รง.แห่งแรกที่พบการเก็บกากแคดเมียม ซึ่งที่เข้ารับการดูแลรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เมื่อ 8 เมษายน 2567 ทั้งนี้หลังจากที่มีการสั่งคัดกรองในเบื้องต้นไปแล้วนั้น พบว่า มีค่าสารแคดเมียมในร่างกายสูงเกินมาตรฐานอยู่ จำนวน 8 คน โดยมีพนักงานได้เข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกาย รวมทั้งหมด 21 คน 

 

"ทั้งนี้ปรากฏว่า จากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดไปแล้วนั้น พบว่าทุกคนไม่มีความผิดปกติต่อร่างกาย แต่ขณะนี้คงเหลืออีก 7 คน ที่มีความเข้มข้นของสารแคดเมียมในเลือดสูงและต้องให้การดูแลรักษาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับต้องใช้ยาขับโลหะหนัก โดยในส่วนจำนวน 14 คน ทางรพ.ให้กลับบ้านได้ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 67 แต่อย่างไรก็ตามจะต้องนัดหมายให้มาตรวจสุขภาพ (เป็นระยะๆ) เพื่อคอยประเมินอาการเสี่ยงโดยรวมอีกครั้ง ขณะที่สารแคดเมียมมีอยู่ปริมาณไม่มาก หรือตามปกติก็จะถูกร่างการคนเราสามารถขับออกไปจากร่างกายเองคือทางปัสสาวะ

 

สำหรับอันตรายที่อาจเป็นพิษเฉียบพลันอย่างเช่น จะต้องเป็นการรับแคดเมียมเข้าร่างกายโดยตรง อาทิ การรับประทานเข้าไป หรือการหายใจเอาเข้าไปในปริมาณที่เข้มข้น ทั้งนี้โดยในกรณีของพนักงานบริษัท (หรือคนงาน) ตามข้างต้น ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคอันตรายใดๆมากนัก