วันที่ 13 เม.ย.67 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า...
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ว่า วันนี้เราเดือดร้อนกันมาก ตนไม่เข้าใจว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะดันเรื่องเงินดิจิตอลทำไม หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นสมัยโบราณ ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ กษัตริย์จะต้องเอาตัวนายกไปประหาร เหตุผลที่สนับสนุนให้ว่าต้องประหาร
คือยาบ้าวันนี้เต็มประเทศ วันนี้ยาบ้า 5 เม็ด ถือว่าเป็นผู้เสพ ตำรวจที่รักชาติรักบ้านรักเมืองบ่นกันอุบเลยว่าจับคนร้ายไม่ได้ วันนี้เห็นข่าวรายงานว่า คนเมายาบ้า ฆ่าแม่ ฆ่าน้าอาตัวเอง มีอยู่ทุกวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้น ยาบ้าระบาดจนถึงขั้นหมาไปคุ้ยขยะก็เจอยาบ้า เป็นพันๆ เม็ดแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เกิดขึ้นในรัฐบาลเศรษฐา คาสิโนถูกกฎหมาย บ่อนการพนันถูกกฎหมาย เรื่องนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สมัยรัชกาลที่ 5 ท่านบอกกับน้องท่านกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าบ่อนการพนันที่เราเก็บส่วยกันอยู่ ที่มีนายอากรบ่อนเบี้ยเก็บส่วยกันอยู่ ให้ไปยกเลิกเสีย เพราะ อากรที่เก็บมานั้นมันไม่คุ้มกับครอบครัวของประชาชนเขาต้องแตกแยก
จึงไปไล่เลิกบ่อน ไม่ให้มีจนสำเร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 นี่ก็คือสิ่งที่กษัตริย์ไทยห้ามมาตั้งแต่อดีต
“วันนี้นายกเศรษฐาผลักดันให้มันเกิด ผมถามว่า ถ้ามี คาสิโนถูกกฎหมาย แล้วเว็บพนันออนไลน์ บ่อนใต้ดินจะหมดไปหรือไม่ มันก็ไม่หมด เหมือนเมื่อก่อนที่เราเอาหวยใต้ดินมาอยู่บนดิน หวยใต้ดินก็ยังมีอยู่ดี ฉะนั้นเรื่องนี้ ถ้าสมัยโบราณคงถูกเอาตัวไปประหาร ต่อมาเงินดิจิทัล 10,000 บาท ประชาชนได้เงิน 10,000 บาท แต่เป็นหนี้ 5แสนล้าน ไม่มีใครเอาหรอก สังคมประชาธิปไตยจะคงอยู่ได้ จะต้องมีผึ้งมากกว่าแมลงวัน ถ้าวันนี้เงินดิจิทัล 10,000 บาท มีคนที่เขาอยากจะรับและดันกิจการนี้ ดันกิจกรรมนี้ ดันนโยบายนี้ ออกไปได้ แสดงว่าประเทศไทยมีแมลงวันมากกว่าผึ้ง“
นายสามารถ กล่าวต่อว่า โดยหลักการถ้าเป็นตัวบุคคล มีคนเอามาให้ 10,000 แล้วเซ็นสัญญาเป็นหนี้ 5แสนล้าน ไม่มีใครเอา แต่ถ้าเป็นนโยบายประเทศ ถ้าจะแจก ฉันก็เอา ถ้าเอานั่นคือ แมลงวัน เพราะสุดท้ายลูกหลานเราทุกคนจะเป็นหนี้ แล้วปรากฏว่า โครงการนี้ไม่ได้แจกทุกคนด้วย ใครมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท ไม่ได้รับ ใครมีรายได้เกิน 70,000 ไม่ได้รับ ฉะนั้น กลายเป็นว่ากำลังเอาภาษีของประชาชน คนที่มีเงินเก็บ 500,000 รายได้เกิน 70,000 เอาไปแจกคนอื่น ซึ่งเขาไม่ได้ยินดีให้ไปแจก แต่ท่านแจก ได้หน้าตัวเอง ได้ความนิยมตัวเอง แต่เอาเงินคนอื่นไปแจก มันใช้ได้ที่ไหน เรื่องนี้พ่อแม่พี่น้องประชาชนต้องออกมาช่วยกันออกมาพูด ถ้าสังคมไทยเราไม่ช่วยกันปลุกระดมเรื่องนี้อยู่ไม่ได้
นโยบายที่ท่านกำลังทำอยู่ เช่น การลดภาษีบ้าน ท่านทำเพื่อกลุ่มธุรกิจตัวเองหรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่านายเศรษฐา ไม่ควรเป็นนายกฯแม้แต่วันเดียว ต่อจากนี้ไป อยู่หนึ่งวันเดือดร้อนหนึ่งวัน อยู่หนึ่งเดือนชาวบ้านเดือดร้อนหนึ่งเดือน อยู่หนึ่งปีชาวบ้านเดือดร้อนหนึ่งปี
ขอฝากประชาชนช่วยกันอย่างที่ผมพูดเรื่องเงินดิจิทัลเพราะเวลาเอาไปใช้ก็เข้ากลุ่มนายทุน ก่อนหน้านี้ผมรับเรื่องของชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนเยอะมาก ๆๆ เงินดิจิทัลสุดท้ายก็เข้าเจ้าสัว เจ้าสัวคืนกลับมาให้กลุ่มรัฐบาลหรือเปล่า ผมไม่อยากเชื่อแต่มีคนพูดให้ผมฟัง แต่ผมไม่เชื่อว่าท่านนายกจะทำเรื่องแบบนี้ แต่ก็มีคนพูดกันหนักขึ้น“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนของเตือนบรรดา สส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ไปยกมือผ่านเรื่องเงินดิจิทัล ระวังจะติดคุกกันหมด อย่าไปหวังว่าเขาจะให้เป็นรัฐมนตรี อย่าไปเชื่อว่า ให้ยกมือไปก่อนแล้วจะได้เป็นรัฐมนตรีรัฐบาล อย่าไปทำแบบนั้น เพราะคนที่ทำแบบนั้นลูกหลานจะก่นด่า
ประเทศวันนี้มีสารเคมีอันตรายอย่างแคดเมียมเข้ามาถึงเมืองหลวงได้อย่างไร จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมยาบ้า ถึงเข้ามาได้มากมาย มันถึงเวลาสังคายนาแล้วหรือยัง ขอฝากถึงผู้มีอำนาจด้วยว่า ถ้ายังอยากจะให้คนนี้เป็นนายกฯอยู่ ประเทศจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ก็คิดกันดู
“สำคัญที่สุดจะบอกว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย
ฝากพ่อแม่พี่น้องคนไทยช่วยกันปลุกระดมให้มีผึ้งมากกว่าแมลงวัน เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถ้าออกมาได้สำเร็จ เราก็คงต้องไปดูประเทศลาว ไปดูเวเนซุเอลา อาร์เจนตินา ว่า เราจะเดินทางแบบนั้นหรือไม่“
