เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่ตั้งใจทำงานและขยันหาเงินมาก สำหรับ "เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์" ลูกสาวคนสวยของ "สมรักษ์ คำสิงห์" ที่ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ "เบิ้ล AM" เผยถ้าวันหนึ่งไม่มีกระแสความดังก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อ อาจจะดูแรงที่เลิกรากับใครก็ออกมาแฉ เป็นคนที่อินกับความรักมาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ยังจะคบกับอดีตแฟนเก่า น้ำตาไหลกลางรายการ ลั่น! หากมีความรักครั้งต่อไปก็ไม่อยากรีบร้อนอีก
คอนเทนส์ต่างๆ หรือที่ทำร่วมกับพี่ๆ ศิลปินในวงการ ใครเป็นคนคิดให้เรา ?
เบสท์ คำสิงห์ : หนูเป็นคนคิด คือตอนแรกเราถ่ายเป็นไลฟ์สไตล์ก่อน ถ่ายครอบครัวอะไรแบบนี้ จนวันหนึ่งเราถึงจุดที่มันตัน เพราะว่าเราถ่ายชีวิตมา 7 ปี ถ่ายแต่อยู่บ้าน แกล้งคนในบ้าน ถ่ายน้องชายไปเตะบอล ไปเรียนหนังสือ คือทุกอย่างมันวนไปหมด เราก็เลยอยากลองเติบโตขึ้น เลยลองเปลี่ยนคอนเทนต์มาทำรายการ แล้วจังหวะนั้นคือหนูอยากออกรถอยู่แล้ว รถปอร์เช่ ก็เลยรู้สึกว่าไหนๆ ก็ออกรถมาแล้ว เอาผู้ชายมานั่งในรถดีกว่า เพราะตอนนั้นก็โสดด้วยไง หนูปลื้มพี่มาตั้งแต่พี่อายุเท่าไหร่นะ ตอนเล่นฮักแพง
อายุ 21 คุณพูดให้ผมฟังแล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้จัก เปิ้ล ปทุมราช ใช่ใหม ?
เบสท์ คำสิงห์ : ไม่รู้จักจริงๆ สาบานเลย ตอนนั้นพี่หล่อกล้ามแน่น ผมสกินเฮด ตอนนี้ถ้าเกิดสมมุติว่าถ้าเราคบกันจะเป็นยังไงพี่ว่า เราก็จะตีกันเรื่องโอมากาเสะ
เบิ้ล ปทุมราช : มันอาจจะไม่ตีหรอก มันไปได้หลายทาง อาจจะปรับอะไรเข้าหากันได้ จริงๆ อาจจะไม่ทะเลาะกันก็ได้
เบสท์ คำสิงห์ : เหรอ แต่เป็นพี่น้องกันแหล่ะดีแล้ว จะได้มีคนเลี้ยงโอมากาเสะ หนูเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าไม่ได้ พี่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ไหม
เบิ้ล ปทุมราช : เป็นได้ พี่เป็นได้ทั้งเพื่อนแฟนเก่า พ่อแฟนเก่า แม่แฟนเก่าก็เป็นได้หมด มันอยู่ที่วิถีการเลิกกันด้วยอะไร
เบสท์ คำสิงห์ : ถ้าสมมุตินอกใจ พี่คิดว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนกับเขาได้ไหม
เบิ้ล ปทุมราช : เขาน่าจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับพี่เพราะพี่น่าจะทำให้เขาเสียใจบ่อยสุดในการอยู่ด้วยกัน คิดว่าแบบนั้นนะ แต่สำหรับพี่มันอาจจะไม่ได้เรื่องนี้เป็นปัจจัย อาจจะมีหลายอย่าง มันก็เลยถอยออกมาด้วยความรู้สึกที่ดี แล้วก็ให้การปรึกษากันได้ดีเหมือนเดิม
ย้อนกลับไปตอนที่เริ่มทำ Youtube สไตล์ของตัวเองโชว์ความน่ารักอบอุ่นของครอบครัว จนทำให้เริ่มมีคนรู้จักในวงการของโซเชียล เคยมีแอบชอบแขกรับเชิญคนไหนบ้างไหม ?
เบสท์ คำสิงห์ : คนนี้ได้ไหมๆ (หัวเราะ) เอาจริงป่ะทุกคน คือหนูจะเป็นคนที่ชอบศึกษาคน หมายถึงว่าพอสมมุติหนูเจอพี่อย่างงี้ พี่เล่าให้หนูฟัง หรือพี่พูดอะไรให้ฟัง ก็จะรู้สึกว่าอยากคุยต่อเพราะว่าเราได้อะไรเพิ่ม คือเราอายุ 23 เองยังเด็กแล้วแขกรับเชิญที่มา บางคนก็เป็นดารา บางคนก็เป็น Youtuber บางคนก็เป็นศิลปิน พอเราได้มาฟัง เราอยากเรียนรู้ แล้วจริงๆ หนูเป็นคนที่ชอบทำเบื้องหลังมาก
แล้วถ้าให้เลือกระหว่างทำ Youtube กับการมาเป็นนักแสดงมืออาชีพเป็นนางเอก เราอยากโฟกัสตรงไหน ?
เบสท์ คำสิงห์ : Youtube ค่ะ เวลาที่เรามองบ้านมองรถเราอ่ะ เงินมันมาจาก Youtube ไม่อยากลืมตรงนี้
เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งฉันไม่ได้มีกระแส ไม่ดังแล้ว จะรับมือกับมันยังไง ?
เบสท์ คำสิงห์ : คือเคยคิดแบบนั้นนะ แต่ว่าไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกว่าที่เป็นอยู่ก็คือโอเคมากๆแล้ว เราโฟกัสปัจจุบัน ก็คือทุกวันนี้แบบคิดง่ายๆ ลงรูปใน IG คนไลค์เป็นแสนก็คือแฮปปี้แล้ว วันหนึ่งถ้าคนจะไลค์เหลือแค่ 1 หมื่น ก็ไม่ได้ติดอะไร เพราะว่าเราเคยผ่านจุดหนึ่งแสนมาแล้ว ก็ต้องเข้าใจว่ากาลเวลามันก็จะเปลี่ยนไป แต่เราก็แค่เป้าหมายของเราก็คือหาเงิน ไม่ได้แบบว่าเล่นละครเพื่ออยากได้รางวัล คือทุกอย่างที่ทำเพราะว่าหาเงิน
ผ่านเรื่องราวมาเยอะมากทั้งเรื่องดราม่าต่างๆ ในปัจจุบันรู้สึกยังไงบ้าง ?
เบสท์ คำสิงห์ : ไม่เคยคิดว่าไม่อยากเป็นตัวเองเลย รู้สึกว่าโชคดีมากตั้งแต่แรกเกิดที่เกิดมาเป็นลูกสมรักษ์ เราก็รู้สึกดีที่มีคนมาทัก โตขึ้นมาหน่อยในโรงเรียนอาจจะมีโดนบูลลี่แบบเป็นลูกดารา แต่ตรงนั้นมันก็ทำให้เราเก่งขึ้น ก็เคยร้องไห้นะไม่มีเพื่อนคบก็ผ่านมันมาได้ พอมาเข้าวงการก็โดนอีก อาจจะเรื่องแฟนบ้างที่โดนมา ก็เลยรู้สึกว่าก็ไม่เป็นไร หนูพูดตามตรงนะที่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ หนึ่งคือหนูเป็นลูกสมรักษ์ สองคือหนูเคยคบกับอดีตแฟนเก่าจนทำให้คนรู้จัก ทุกอย่างมันรวบรวมผสมกันจนเป็นเบสในวันนี้ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องไม่อยากเป็นตัวเอง
ตอนนี้แฟนคลับของเบสท์เยอะขึ้นกว่าเดิม มีคนรักมากกว่าเดิม ไม่ใช่คนที่จะมาปกป้องจากดราม่าแต่คือมาเพราะรักเบสท์ ?
เบสท์ คำสิงห์ : จะร้องไห้เลย (น้ำตาไหล) คือเบสท์ไม่กล้าคิดแบบนั้น คือเราจะถ่อมตัวเองตลอด คือการที่เราเป็นเด็กแล้วมาอยู่ตรงนี้แล้วมีคนชื่นชอบ สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงตลอดคือเราต้องถ่อมตัวเองไว้ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้เพราะว่าเป็นลูกสมรักษ์ เรามีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอาจจะด้วยกระแสเรื่องความรักหรืออะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นเบสท์ไม่เคยคิดว่ามาอยู่ตรงนี้ได้เพราะว่าความแข็งแรงของเบสท์ จริงๆ หนูอาจจะดูแรงนะ คนจะมองว่าหนูดูแรงพูดตามตรงนะ เลิกกับใครก็ออกมาแฉ ออกมาพูดอะไรอย่างงี้ จริงๆหนูก็พูดและบอกตลอดว่ามานั่งอยู่ตรงนี้ได้ ส่วนหนึ่งที่คนจากไม่ชอบและกลายเป็นมาชอบ อาจจะเป็นเพราะข่าวเรื่องแฟนเก่า หนูไม่เคยลืม ต่อให้ย้อนกลับไปหนูก็จะเลือกคบเขานะ เพราะว่ามันทำให้เราเป็นเรา (ร้องไห้)
เวลามีปัญหาชีวิตปรึกษาใคร ?
เบสท์ คำสิงห์ : อยู่กับตัวเอง คือเบสท์จะชอบอยู่กับตัวเองเพราะถ้าเราอยู่กับตัวเองจะได้คิดอะไรมากขึ้น คืออยู่กับพ่อกับแม่บางทีเราพูดหรือปรึกษากันมันก็จบในปัญหานั้นแค่นั้น แต่ว่าเรื่องของการรักษาใจตัวเอง หรือการแก้ปัญหาหรือแนวทางความคิดเราชอบอยู่กับตัวเอง
เคยคิดจะฟ้องพวกคอมเมนต์ดราม่าที่มาว่าเราบ้างไหม ?
เบสท์ คำสิงห์ : ไม่เคยคิดจะฟ้องเลย เพราะว่ารู้สึกว่าการที่เรามาอยู่ตรงนี้มันต้องมีอยู่แล้ว คนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบ แล้วต่อให้เราฟ้องไป สมมุติถ้าหนูฟ้องแล้วเป็นข่าว คนก็จะไม่คอมเมนต์ด่าแล้วนะ เขาจะคอมเมนต์ว่าไม่พิมพ์ดีกว่าเงินในกระเป๋าไม่พอ ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากคำด่าพี่เข้าใจไหม เราก็เลยคืองั้นก็ไม่ฟ้องดีกว่า งั้นก็ด่ากันมาเถอะเอาตรงๆ เลย คิดอะไรก็พิมพ์มาเลย หนูโอเค เพราะว่าเจอมาเยอะ ก็เลยไม่ได้อะไร
เราเป็นคนที่อินเรื่องความรักมาก อันนี้เรื่องจริงไหม ?
เบสท์ คำสิงห์ : จริงๆ อินความรักเรื่องแฟนที่สุด คือเราจะอินมาก เราจะใช้เวลากับตรงนั้นเยอะมาก คือทุกวันนี้โสดไง มันก็จะมีแรงไปทำงาน แต่ถ้ามมีแฟนปุ๊บมันจะแบบอยากอยู่กับแฟน รีบทำงานให้เสร็จแล้วกลับไปหาแฟน เป็นคนอินอย่างนั้น
ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง มีคนคุยหรือคนที่ถูกใจหรือยัง ?
เบสท์ คำสิงห์ : ก็มีคนเข้ามาคุยนะ ถามว่าชอบไหม หนูก็ชอบนะ แต่หนูมองว่ามันยัง รู้สึกว่าความรักครั้งต่อไปของเราไม่อยากรีบแล้ว ไม่อยากให้เป็นความรักแบบวัยรุ่น คืออยากจริงจัง อยากโตขึ้น เพราะฉะนั้นก็เลยมองว่า โอเค งั้นเราคุยกันไปทุกวัน ให้กำลังใจกัน แล้ววันหนึ่งถ้าโอเคพร้อม หรือว่ามันใช่แล้ว เรารู้สึกรักเขาแล้วหรือชอบเขาจริงๆ แล้วค่อยเป็นแฟนกัน
อย่างพี่เบิ้ลใช่สเปคไหม ?
เบสท์ คำสิงห์ : ใช่ เพราะหนูชอบผู้ชายทำงานเก่ง ดูจากการทำงาน แล้วก็มีโปรเจคในหัวมีการวางแผนชีวิต หาเงินได้ด้วยตัวเองไม่ได้ใช้เงินพ่อแม่หรือเงินคนอื่น ผู้ชายแบบนี้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี แต่ตัดเรื่องเจ้าชู้ไปเลยนะ (หัวเราะ) แค่เรื่องการทำงานหาเงินมันใช่นะ
ถ้าคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา เป็นหนึ่งในสมาชิกของ เบสท์ คำสิงห์ แฟมิลี่ ต้องเป็นยังไง ?
เบสท์ คำสิงห์ : จริงๆ หนูขอแค่ความจริงใจ ที่แบบพูดแล้วเป็นแบบที่พูด เช่นบอกว่ารักเรา ก็ขอให้รักเรา บอกว่าจะไม่เจ้าชู้หรืออะไรก็ตามคือให้ทำแบบที่พูด ถ้าจะเจ้าชู้ก็เอาตรงๆ เลยว่าเราหยุดไม่ได้ เราชอบทักผู้หญิง คือพูดได้ไหม อย่าให้เบสท์รู้สึกว่ามันไม่จริงใจ
สามารถติดตาม “เบิ้ล AM” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น.
คลิกชมคลิปย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=ZRGtD_Ihx84&ab_channel=WEDO