ชาวบ้านจังหวัดตากยื่นหนังสือคัดค้านขน "แคดเมียม" กลับมาฝังกลบแหล่งเดิม หวั่นส่งผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต พร้อมวิงวอนให้หน่วยงานเกี่ยวข้องวางมาตรการป้องกัน ดูแลความปลอดภัยใกล้ชิ

    
 เมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี กรรมาธิการที่ดินสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ,นายคริษฐ์ ปานเนี่ยม ส.ส.ตาก , น.ส.ศนิวาร บัวบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะ เดินทางมาตรวจสอบสารแคดเมียม บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน กม.409-410 ต.หนองบัวใต้ อ.เมืองตาก จ.ตาก ซึ่งเป็นโรงงานกักเก็บกากอุตสาหกรรม สารแคดเมียม เป็นต้นทางของการลักลอบขนสารแคดเมียมไปที่ จ.สมุทรสาคร และจ.ชลบุรี กว่า 13,800 ตัน โดยมี นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดตาก ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก มาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ
    
 นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า สารแคดเมียมเป็นสารอันตราย เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเป็นต้นเหตุของโรคร้ายต่างๆ อันตรายถึงชีวิตได้ จากกรณีพบการลักลอบเก็บสะสมกากแคดเมียมและสังกะสีจำนวนมากในโรงงาน จ.สมุทรสาคร โดยบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ได้ขายกากเหล่านี้ให้กับบริษัทในจ.สมุทรสาคร กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินงานทางการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกากของเสียอุตสาหกรรมดังกล่าวมีความเป็นอันตราย หากจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง อาจกระทบต่อประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับแหล่งเก็บกากแร่แคดเมียม

     นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า การขนย้ายสารแคดเมียมกลับมายังจ.ตาก ถิ่นกำเนิด ผู้รับผิดชอบต้องขนส่งด้วยความระมัดระวังและจัดเก็บอย่างมิดชิด ไม่ให้เกิดการรั่วไหล ซึ่งจะเป็นอันตรายกับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมโดยตรง ซึ่งวันนี้ตนและคณะได้มาดูสถานที่จัดเก็บ พร้อมได้ซักถามประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความปลอดภัย ถ้าจะต้องนำมาเก็บไว้ที่บ่อเดิม มีความปลอดภัยมากเพียงใด และได้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วย ในการนำขนสารแคดเมียมกลับมา เกรงว่าจะได้รับผลกระทบสารพิษ
    
 สำหรับบ่อกักเก็บที่เปิดแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ และบ่อที่เปิดบางส่วน 1 บ่อ ถูกอายัดห้ามดำเนินการใดๆ แล้ว และยังมีกากแคดเมียมที่ถูกขุดขึ้นมาแล้วอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ค และยังไม่ได้บรรจุในอาคารอยู่อีกประมาณ 2,600 ตัน ซึ่งถูกอายัดได้ไว้เช่นกัน
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คณะกรรมาธิการที่ดินสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติจะเข้าไปในสถานที่กักเก็บแคดเมียมได้มีชาวบ้าน ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก กว่า 200 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่รอบๆ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการที่ดินสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อคัดค้านการขนย้ายสารแคดเมียมกลับมากักเก็บไว้ที่เดิม โดยต่างหวาดผวาได้รับอันตรายจากสารพิษดังกล่าว
   
  จากการเปิดเผยของ นางปาริชาติ อ่อนละม่อม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6  ต.หนองบัวใต้ ว่า ชาวบ้าน ต.หนองบัวใต้ ที่อยู่ใกล้กับโรงงานถลุงแร่สังกะสี สถานที่กักเก็บสารแคดเมียมมีจำนวนกว่า 7 หมู่บ้าน อาศัยอยู่กันมานาน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร ทำนาทำไร่ทำสวน ล้วนเสี่ยงต่ออันตรายที่จะได้รับสารปนเปื้อนจากสารแคดเมียม สารอันตรายดังกล่าวอาจจะปนเปื้อนในสภาพแวดล้อมไม่ว่าทางน้ำและทางอากาศ อาจจะได้รับผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษ ซึ่งก็น่าเป็นห่วง มีชาวบ้านที่ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมหลายราย ซึ่งจะรักษาไปตามอาการ 
   
  จากปัญหาผลกระทบที่ได้รับสารปนเปื้อนจากแคดเมียม ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องลุกออกมาคัดค้าน เพื่อให้โรงงานยุติการถลุงแร่ โดยได้ทำการประท้วงไปทั้งทางจังหวัดและทางหนึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ได้ผล ปัจจุบันถึงแม้โรงงานจะไม่มีการถลุงแร่สังกะสี แต่ก็ยังกักเก็บกากแร่แคลเซียมไว้เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านก็หวั่นอันตรายจากสารพิษก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนทางอากาศและทางน้ำ ชาวบ้านต่างก็จับตาความเคลื่อนไหวของโรงงานดังกล่าวอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งโด่งดังมีสารเคมีแคดเมียมหลุดรอดออกไปจากแหล่งกำเนิด ที่ จ.สมุทรสาคร จ.ชลบุรี และจะมีการนำกลับมาฝังกลบไว้ยังแหล่งเดิม
 
    สำหรับการนำสารแคดเมียมจากจ.สมุทรสาคร และชลบุรี กลับมายังจ.ตาก ทางชาวบ้านในชุมชนใกล้บริษัทต้นกำเนิดของสารแคดเมียมหลายคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยใกล้กับสารแคดเมียม ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งลงมาดูแลแก้ไขและรับผิดชอบกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนใกล้กับสารแคดเมียม โดยต้องมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในด้านความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ และมีการแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบ หากมีสิ่งเกิดขึ้นกับสารสารแคดเมียมรั่วไหลออกมา