เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 นายฉลาด ชิดชม นายอำเภอไพรบึง พร้อม ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจดูสภาพโรงเรียนบ้านพะแวะ ตำบลสุขสวัสดิ์ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากเมื่อช่วง 04.00 น. ที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟลุกไหม้เผาอาคารเรียนวอดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.โนนปูน, อบต.จะกง, เทศบาลตำบลไพรบึง ,อบต.ไพรบึง เกือบ 10 คัน ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
นายฉลาด ชิดชม นายอำเภอไพรบึง เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางตรวจดูความเสียหายของโรงเรียน และเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน ผู้บริหาร คณะครู ที่เคยทำงานมีความผูกพันกับโรงเรียนแห่งนี้ โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่มีการเริ่มย้ายนักเรียนออกจากโรงเรียนช่วงปี 58 ก่อนจะมีการยุบเลิกสถานศึกษาอย่างเป็นทางการไปในช่วงปี 60 พร้อมกับปล่อยให้โรงเรียนร้าง และได้ตัดไฟฟ้ามานานแล้ว ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ที่แท้จริงนั้นต้องรอให้พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจพิสูจน์หาสาเหตุของการเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดได้สั่งการไปยังผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำตำบล ในทุกพื้นที่ของอำเภอไพรบึง ได้ตรวจสอบหาพื้นที่รกร้าง และเข้าไปทำความสะอาด เฝ้าระวัง ป้องกัน และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตราอยู่เป็นประจำ เพื่อที่ไม่ให้เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นอีก
ด้าน ชาวบ้านรายหนึ่ง ที่อาศัยอยู่บ้านพะแวะ ตำบลสุขสวัสดิ์ อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ไฟไหม้อาคารเรียนในครั้งนี้ตนรู้สึกหดหู่มาก เสียดายอาคารเรียน เสียใจ สงสารโรงเรียนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านบางคนมาเห็นสภาพอาคารที่ถูกไฟไหม้ถึงกับร้องไห้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าสาเหตุการเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ หรือ มีคนวางเพลิงก็เป็นได้ เพราะไฟฟ้าในโรงเรียนก็มีการตัดไปนานแล้ว ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และถ้าจะเป็นเพราะไฟฟ้าลามเข้าไปอาคารเรียนก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะป่าบริเวณๆโรงเรียนไม่มีร่องรอยของการเผาป่าแต่อย่างใด ถ้าเป็นฝีมือคนวางเพลิงจริงก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่เร่งจับมือวางเพลิงให้ได้โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายเมื่อ 30 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนร้างบ้านสลักได ตำบลสุขสวัสดิ์ อำเภอไพรบึง ก็ถูกไฟไหม้เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่คล้ายกันคือ เป็นโรงเรียนร้างเหมือนกัน เป็นโรงเรียนในตำบลสุขสวัสดิ์ เหมือนกัน และ ไฟลุกไหม้จากภายในอาคาร เหมือนกัน ซึ่งทั้งโรงเรียนถูกตัดไฟฟ้าไปนานแล้ว ไม่มีร่องรอยของการถูกไฟรามทุ่งเข้าเผาไหม้อาคารเรียนแต่อย่าใด ทำให้เชื่อได้ว่าอาจจะเป็นฝีมือของคนที่คึกคะนอง หรือ จงใจจะว่างเพลิง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวน ตรวจหาหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้