ดวงถึงฆาต ! รถ จยย.ชนกัน ผู้บาดเจ็บล้มกลิ้งบนถนน รถบรรทุก 10 ล้อทับศีรษะเละคาถนน ก่อนหลบหนีตามระเบียบที่กาญจน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 10 เมษายน 2567 พ.ต.ต.ชยุต ขุนฤทธิ์วรชัย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่ามะกา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย และมีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เหตุเกิดบนถนนเลียบริมคลองชลประทานสายแสนตอ-หวายเหนียว ด้านหลังวัดท่ากระทุ่ม หมู่ 1 ต.แสนตอฯ หลังรับแจ้งจึงลงบันทึกประจำวันเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธประจำจุดรอรับเหตุ ต.แสนตอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพฯ ประจำจุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกา อยู่ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ร่วมกับตำรวจในการชันสูตรพลิกศพ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และช่วยเหลือในเรื่องอุปกรณ์แสงสว่าง เนื่องจากถนนตรงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีไฟฟ้าสลัวๆ เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ 2 คัน เฉี่ยวชนกัน คันแรกเป็นรถยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ซีซี.สีดำหมายเลขทะเบียน ขลข.415 ราชบุรี ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้าพังเสียหาย ส่วนอีกคันเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเช่นกัน แต่เป็นรุ่น PCX สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 2 กจ.8884 ราชบุรี ล้มคว่ำอยู่ในสภาพด้านหน้าพังเสียหายเช่นกัน
ใกล้กันกับรถจักรยานยนต์คันแรกพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวสภาพศพนอนคว่ำหน้าศีรษะถูกล้อรถบรรทุก 10 ล้อทับบดขยี้จนกะโหลกแตก เศษกระดูกกระจายเกลื่อนพื้นถนน มันสมองปนเลือดไหลนองพื้น สอบสวนเบื้องต้นทราบชื่อนางเจี๊ยบ(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 43 ปี ไม่ทราบที่อยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิฯ ได้ช่วยกันลำเลียงนำส่ว รพ.ฯ ไปแล้วก่อนหน้าที่ตำรวจจะมาถึง ทราบว่าอาการสาหัสทั้ง 2 ราย
จากการสอบสวนดูจากหลักฐานในที่เกิดเหตุและจากปากคำของผู้เห็นเหตุการทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันได้วิ่งสวนทางกันและเฉี่ยวชนกัน ทำให้ หญิงสาวที่ตาย ร่างกระเด็นเข้าไปอยู่ในช่องทางอีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับมีรถบรรทุก 10 ล้อไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนวิ่งมาทับบดขยี้ศีรษะของหญิงสาวจนเสียชีวิตซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนหาเบาะแสของคนขับรถบรรทุก 10 ล้อมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำไปเก็บไว้ที่ รพ.ฯ เพือรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
