ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หารือแนวทางการขนย้ายกากแคดเมียมที่พบแล้วกว่า 12,000 ตัน จากปลายทางกลับสู่หลุมต้นทาง เริ่มเที่ยวแรกหลังสงกรานต์นี้
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 10 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.กิตติ กรรภิรมย์ สาธารณสุขนิเทศก์ รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการร่วม 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมสอบสวน คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงคมนาคม กรมการปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ที่พบกากแคดเมียม) เข้าประชุมร่วมกัน เพื่อติดตามสถานการณ์กากแคดเมียม ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี รวมถึงหารือเพื่อวางแนวทางหรือมาตรการในการขนย้ายกากแคดเมียมที่ขณะนี้จากปริมาณที่พบทั้งหมดประมาณการณ์ได้ว่า พบแล้วกว่า 12,000 ตัน ทั้งจากในจังหวัดสมุทรสาคร และ จังหวัดชลบุรี โดยจะกลับไปสู่หลุมฝังกลบที่จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องทำทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนที่อยู่ในเส้นทางที่รถขนแคดเมียมขับผ่าน เป็นต้น
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชี้แจงว่า สำหรับกากแคดเมียมที่ตรวจพบทั้งหมดนี้ เป็นกากแร่ที่ได้จากการถลุงสังกะสีในจังหวัดตาก ซึ่งทั้งหมดเคยถูกฝังกลบอยู่ใต้ดินในจังหวัดตาก ก่อนที่จะถูกขุดขึ้นมาส่งจังหวัดสมุทรสาคร โดยกากแร่แคดเมียมเหล่านี้ถูกทำให้หมดเสถียรภาพแล้ว แต่ก็ยังคงนับเป็นสารอันตราย ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงต้องมีการสืบหากากแร่แคดเมียมที่ขุดออกมานี้ว่าไปอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งขณะนี้ก็พบเป็นจำนวนมากแล้ว เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับปริมาณที่ขุดออกมาจากจังหวัดตากแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่สามารถระบุเป็นที่ชัดเจนได้ว่า ครบหรือยังไม่ครบตามจำนวนน้ำหนักที่ขุดออกมา เพราะกากแร่แคดเมียมและกากสังกะสีที่นำออกมาจากหลุมนั้น ยังคงเป็นกากแร่ที่มีความชื้น เมื่อมาสู่ปลายทางที่จังหวัดสมุทรสาครเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการส่งขายนั้น จะต้องทำให้กากแร่เหล่านี้แห้งสนิท ดังนั้นความชื้นที่ขุดออกจากบ่อจะหายไปบางส่วน ดังนั้นจึงต้องให้ผู้ที่มีความชำนาญทำการชั่งน้ำหนักและคำนวณผลอีกครั้งหนึ่ง แต่ที่พบในขณะนี้ก็ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเข้ามาทุกทีแล้ว ส่วนเรื่องของการเสาะแสวงหาก็ยังคงดำเนินต่อไป ล่าสุดก็พบอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ขั้นตอนหรือกระบวนการในเรื่องของการขนกากแร่แคดเมียมกลับสู่หลุมที่จังหวัดตากนั้น ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนให้รัดกุมที่สุด เพื่อให้กระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด หรือต้องไม่เกิดผลกระทบใดๆ ทั้งในเรื่องของสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การสัญจรคมนาคม ฯลฯ ดังนั้นจึงขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ก่อนที่จะให้มีการขนส่งได้นั้น ทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำแผนให้ดีที่สุด โดยผ่านการประเมินศักยภาพในทุกจุด ตั้งแต่ผู้ควบคุมการขนส่ง วันเวลาที่เหมาะสมต่อการเคลื่อนย้ายขนส่ง ตัวรถที่ใช้ขนส่ง การขนย้ายจากอาคารโรงงานขึ้นสู่ตัวรถ การใช้ภาชนะบนรถเพื่อป้องกันการตกหล่น การปิดคลุม การนำรถออกจากพื้นที่โรงงาน การเก็บฝุ่นภายในโรงงานไปทิ้ง การขนย้ายระหว่างการ ความพร้อมของผู้ขับรถขนส่ง การติดตามการขนส่งด้วยระบบ GPS การนำกากแร่ลงหลุม และ การขจัดฝุ่นบนรถภายหลังที่ย้ายกากลงหลุมแล้ว เป็นต้น โดยเมื่อกระบวนการนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็ยังคงต้องเดินทางหน้าต่อไปในเรื่องของการวางมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อีก
กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า สำหรับวันและเวลาที่จะเริ่มเคลื่อนย้ายนั้น จากการหารือร่วมกับทุกฝ่ายแล้ว พิจารณาเห็นว่ามาตรการที่จะต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายนั้นต้องรัดกุมและละเอียดมากเป็นพิเศษกว่ากากแร่ทั่วไป ประกอบกับในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก จึงเห็นสมควรว่าจะให้เริ่มเคลื่อนย้ายตามแผนที่วางไว้หลังสงกรานต์ ขณะที่การดำเนินคดีก็ยังคงมีการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้ที่ต้องเข้ามารับผิดชอบในการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งหมด ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของปริมาณกากแร่แคดเมียมที่ตรวจพบทั้งหมดนั้น ตอนนี้ถ้าคิดรวมเป็นตัวเลขกลมๆ ก็ตรวจพบได้มากกว่า 12,000 ตันแล้ว โดยพบที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรกและครั้งที่ 2 ประมาณ 6,300 ตัน โรงงานที่จังหวัดชลบุรีราวๆ 4,400 ตัน ,บริษัท บริษัท ซิน หงษ์ จ.สมุทรสาคร ประมาณ 1,034 ตัน,โกดังในพื้นที่ตำบลคลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน เกือบ 500 ตัน และ ล่าสุดพบที่เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ อีกราวๆ 300 ตัน แต่ตัวเลขทั้งหมดนี้ยังถือว่าเป็นตัวเลขประมาณการณ์ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและคำนวนของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำหนักที่เป็นจริงและชัดเจนมากที่สุด.