เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 09 เมษายน 2567 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ รอง ผกก.5 บก.ปทส พ.ต.ท. ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รอง ผกก.ปป.สภ.กระทุ่มแบน นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน นายบัญชา ฤทธิศาสตร์ นายก ทม.คลองมะเดื่อ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบที่โกดังเลขที่ 70/2 ม.7 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวสร้างไว้ให้เช่า มีนายกรณ์วัชพล รับเป็นผู้ดูแลและให้เช่าโกดังแห่งนี้

ซึ่งจากการตรวจค้นพบกากแร่แคดเมียมและสังกะสี ใส่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ เก็บกองอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แต่ละถุงมีสัญลักษณ์ตัว P ตามด้วยตัวเลข 3 ตัว และ วันเดือนปี ที่ขนย้ายออก เหมือนกันกับที่พบในบริษัท ในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร  เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ดูแลโกดังแห่งนี้ รับสารภาพว่า ยินยอมให้บริษัท เช่าโกดังเก็บแคดเมียมจริง เพื่อรอส่งไปยังบริษัทของนายจาง ก่อนที่จะมีการส่งต่อไปยังโรงงานปลายทาง (จ.ชลบุรี) 


นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กล่าวว่า สืบเนื่องจากการสนธิกำลังกันของทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับ ตำรวจ ปทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สืบสวนหาเส้นทางการขนย้ายกากแร่แคดเมียม จากจังหวัดตาก มาที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งต่อไปยังจังหวัดชลบุรี ที่ได้มีการเข้าจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น  ในวันนี้ได้ทำการขยายผลทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดชลบุรี ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที่เป็นผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้ เบื้องต้นให้การรับว่า ทางบริษัทได้มาเช่าโกดังตามสัญญาเช่า เพื่อนำกากแคดเมียมที่รับมาจากจังหวัดตากนั้น เข้ามาเก็บไว้ภายในโกดังแห่งนี้ ตั้งแต่ราวๆ 5 เดือนที่แล้ว เพื่อรอจำหน่ายต่อไป โดยในส่วนของนายกรณ์วัชพล เจ้าของผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้ ก็จะมีความผิดในฐานครอบครองกากแร่ที่มีการปนเปื้อนของสังกะสีและแคดเมียม ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มีโทษจำคุก 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกากแร่แคดเมียมที่พบในโกดังแห่งนี้มีอยู่ราวๆ 312 ถุง หรือหากคิดเป็นน้ำหนักโดยรวมไม่น่าจะเกิน 500 ตัน ทั้งนี้ก็จะต้องไปดูสัญญาเช่าอีกด้วยว่า ตามสัญญาระบุไว้ 1,500 ตันนั้น ทำไมเหลือเพียงเท่านี้

ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าของโกดังบอกว่า ได้ส่งไปให้มิสเตอร์จาง ที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในเรื่องของตัวเลขน้ำหนักโดยรวมของกากแร่แคดเมียมล็อตนี้ทั้งหมด ถ้าเราดูยอดการขนส่งจากจังหวัดตากถึงโรงงาน จ.สมุทรสาคร ตามที่ระบุไว้ประมาณ 13,800 ตัน ตอนนี้ยอดรวมจากการประเมินที่ถูกตรวจพบแล้วทุกที่นั้น ก็ยังคงเหลือที่ต้องตามหาอีกราวๆ 4,900 ตัน โดยจะต้องมีการขยายผลไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาส่วนที่ขาดหายไปกลับมาให้ได้ครบตามจำนวนที่เป็นจริง ทั้งนี้ก็จะต้องมุ่งไปทั้งสถานที่กักเก็บหรือโรงงาน ที่จะนำสินค้าไปกักเก็บไว้ รวมถึงจุดขนส่งสินค้าทางเรือ  ก็มีทั้งท่าเรือกรุงเทพฯ กับ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ล้วนเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ต้องทำการขยายผลสืบสวนทั้งสิ้น 


   อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องของการขนส่งกากแร่แคดเมียมจากบริษัท กลับไปยังหลุมฝังกลบที่จังหวัดตากนั้น ต้องดำเนินการอย่างแน่นอนตามคำสั่งของรัฐมนตรี โดยเบื้องต้นให้ระยะเวลา 7 วัน นับแต่วันออกคำสั่ง โดยจะมีผลบังคับใช้ในระยะแรกถึงวันที่ 11 เมษายนนี้ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในระหว่างกระบวนการดำเนินงานทางกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

 ด้านนายกรณ์วัชพล บุณะโกวิทย์ รับเป็นผู้ดูแลและผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้ บอกว่า เส้นทางการมาของกากแร่แคดเมียมในโกดังแห่งนี้ ทางตนเองรับฝากของจากทางบริษัท มาเป็นระยะเวลาราวๆ 4 – 5 เดือนแล้ว โดยเก็บค่าเช่าในราคา เดือน 20,000 บาท ซึ่งเขาบอกว่าจะติดต่อขอเช่าโกดังเพื่อเก็บกากแร่แคดเมียม ทางตนก็รับไว้เพราะไม่รู้ว่าแคดเมียมมีผลอย่างไร และไม่รู้ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งในส่วนตัวนั้นพอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจก็ยินดีที่จะให้ตรวจทันทีเพราะเห็นจากข่าวแล้วว่า กากแคดเมียมเป็นสิ่งไม่ดี ซึ่งหลังจากที่รับกากแคดเมียมเข้ามากักเก็บไว้แล้วนั้น ก็มีการขนย้ายออกไปบ้างแล้ว แต่ตนไม่ทราบน้ำหนักที่แน่ชัด รู้ว่าจะมีการขนครั้งละประมาณ 10 เที่ยวต่อวัน ใช้รถบรรทุก 10 ล้อมาขน แต่ละเที่ยวน้ำหนักก็น่าจะราวๆ 15 ตัน โดยขนออกไปแล้ว 6 วัน ซึ่งในทุกครั้งที่จะมีการมานำของออกไปนั้นทางเจ้าของโรงงาน เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จะเป็นผู้โทรศัพท์มาแจ้ง แต่ส่วนตนเองแทบติดต่อกับทางนั้นไม่ได้เลย