โจรใต้ป่วน! นราธิวาส ลอบยิงรถกระบะทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4613 เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 8 นาย  แม่ทัพภาค 4 สั่งคุมเข้มพื้นที่ พร้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

     เมื่อวันที่ 8 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.โทติวิทย์ แสงจันโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนซุ้มยิงใส่รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4613 กรมทหารพรานที่ 46 ที่บริเวณริมถนนบ้านบลูกาฮีเล หมู่ที่ 6 ต.บาตง มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์ ผกก.สภ.รือเสาะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะไปก่อนหน้าแล้ว จึงได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่ เพื่อประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในช่วงเช้า

     ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลรือเสาะ จึงทราบว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย คือ อส.ทพ.ประคอง สุดทนัง และอส.ทพ.วิทยา ปัวงาม และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 8 นาย ประกอบด้วย 1.ร.อ.ชัยยุทธ สุกบู ผบ.ร้อย ทพ.4613 บาดเจ็บเล็กน้อย 2.จ.ส.อ.ศักดิ์รพี เพชรเรือนทอง โดนยิงที่บริเวณขาซ้าย 3.ส.อ.สุรเดช สังขวงค์ ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวที่บริเวณศีรษะ 4.อส.ทพ.อนันต์ บือราเฮง โดนยิงที่บริเวณขากับแขน 5.อส.ทพ.เปาซี เจ๊ะเต๊ะ โดนยิงที่บริเวณซีโครงซ้าย 6.อส.ทพ.มะกอเส อึมา โดนยิงที่บริเวณขาซ้าย 7.อส.ทพ.สามะแอ ดือมาสิ บาดเจ็บเล็กน้อย และ8.อส.ทพ.อาดนัย สุหลง บาดเจ็บเล็กน้อย ล่าสุดผู้ได้รับบาดเจ็บได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

     จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.อ.ชัยยุทธ ผบ.ร้อย 4613 ได้นำกำลังพลรวม 10 นาย ขึ้นรถยนต์กระบะ เพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่กำลังทำซุ้มประตู เพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลฮารีรายอ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในเดือนรอมฎอน และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ในช่วง 10 วันสุดท้ายของดือนรอมฎอน 

     ด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ อส.ทพ.วิทยา ปวงงาม และอส.ทพ.ประคอง สุทนัง ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำให้เร่งดำเนินการในเรื่องการดูแลสิทธิ ตลอดจนสวัสดิการด้านต่างๆ ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ และสั่งการคุมเข้มพื้นที่เพื่อดำเนินการตรวจสอบรวบรวมวัตถุพยาน และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ ทุกฐานปฏิบัติการเพิ่มมาตรการควบคุมความปลอดภัย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียของกำลังพลเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชน ใช้ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อจำกัดเสรีการก่อเหตุ คุมเข้มพื้นที่รับผิดชอบทุกตารางนิ้ว