รมว.ยธ.ดันโมเดลบ้านพักใจสตูล โดยใช้ศาสนบำบัดในพื้นที่ภาคใต้คืนคนดีสู่สังคม พร้อมยอมรับการศึกษามีผลต่อการแก้ปัญหาหลังพบสถิติสูง

  วันที่ 7 เมษายน 2567   พันตำรวจเอกทวี    สอดส่อง   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  และคณะ เดินทางลงตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหายาเสพติด   ที่บ้านพักใจ    หมู่ที่ 2 ต.บ้านควน อ.เมืองสตูล โดยมีนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  พร้อมด้วยปลัดจังหวัดสตูล  และนายกอบต.บ้านควนและส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ   พร้อมพบปะมอบนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด   ให้กับแกนนำตำบลอาสา  9 ตำบล  ก่อนมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมที่ห้องประชุมเรือนจำจังหวัดสตูล  และตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของเรือนจำจังหวัดสตูล  

จากนั้นพันตำรวจเอกทวี  สอดส่อง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ได้เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติด   เหมือนอย่างเช่นที่จุด  “บ้านพักใจ”  ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ว่า  บ้านพักใจ   ที่นี่เป็นสถานที่หนึ่งเป็นพักใจจริง ๆ  ที่เกิดขึ้นจากภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาร่วมแก้ปัญหาที่เกิดจากประสบการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดด้วยตัวเองจากลูกของเจ้าของสถานที่   เกี่ยวข้องไปติดยาเสพติดและต้องไปบำบัด  ฟื้นฟู  รักษาในสถานที่อื่น   ชุมชนโดยเฉพาะในสตูลหลายแห่งก็ติดยาเสพติด   ก็ลุกขึ้นมาเพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม  จึงมีสถานที่นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการฟื้นฟู   กลุ่มบำบัด  เกี่ยวกับผู้ที่ติดยาเสพติด  ที่อยากให้กำลังใจเพราะปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องเร่งแก้ปัญหา  ทุกรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐบาลนี้  ที่ต้องการทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพเข้าไปอยู่ในสังคม  

  เมื่อดูแล้วพบว่าสถานที่แห่งนี้  เอกชนได้ช่วยงานราชการ   ส่วนราชการของบประมาณเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดถึง 28 หน่วยงาน  แต่ที่นี่ไม่ได้ของบประมาณเลย  แต่แก้ปัญหายาเสพติดให้เราเห็นสภาพ   โดยใช้จุดแข็งคือศาสนบำบัด  โดยเฉพาะที่สำคัญในฐานะ  รัฐมนตรียุติธรรม  อยากจะทีมงานภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาช่วยแก้ปัญหายาเสพติด   คือทางภาครัฐทำเป็นเต็มที่แล้ว  แต่ภาครัฐไม่ได้นอนในหมู่บ้าน  ชุมชน   ภาครัฐจะเป็นผู้หวังดี  แต่ชุมชนจะเป็นผู้รู้ดี   จากนี้สิ่งที่เราต้องทำก็ต้องช่วยส่งเสริมสนับสนุน   ช่วยยกระดับคุณภาพโดยเฉพาะสตูลในอนาคตเป็นโอกาสของประเทศไทย   คือการสร้างเศรษฐกิจที่ดี   การจะมีเศรษฐกิจที่ดีจังหวัดสตูลมีความพร้อมทางด้านการท่องเที่ยว   ประมง  เกษตร   เป็นศูนย์รวมความมั่นคงทางอาหารของโลกอยู่ที่สตูล   โดยเฉพาะหลังๆเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นมรดกโลก    ถ้าสังคมสตูลได้ประชากรมีขีดความสามารถในทศวรรษหน้า   หากติดยาเสพติดก็จะเป็นปัญหาต่อการพัฒนามาก   ก็จะส่งเสริมสนับสนุนที่พักที่นอนและการปฏิบัติศาสนกิจที่ยังขาด

ช่วงเปลี่ยนผ่านยังไม่พร้อม   ไปที่ไหนก็อยากให้มีศูนย์บำบัดเพิ่มขึ้น แต่ถ้าผู้เสพหรือผู้ป่วยไม่ไป   ก็เหมือนสร้างแล้วเป็นสุสาน   เพราะมันอยู่ที่ตัวคุณด้วย   วันนี้ โมเดลของบ้านพักใจก็เป็นหนึ่งในโมเดลที่เราคิดว่าจะขยายไปในบริบทของจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดในภาคใต้   ซึ่งมีชุมชนเป็นพี่น้องมุสลิม   แต่ในศูนย์บำบัดที่นี่ไทยพุทธด้วยมุสลิมด้วย  ก็เป็นสิ่งที่ดี   ที่มีประชาชนสงสัยเพราะได้คุยกับหมอชลน่านแล้ว  ต่อจากนี้จะจับมือกันเดิน ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเราต้องทำมากกว่าพูด   พูดในสิ่งที่ดีเราจะปรับปรุงตัว

เราพร้อมสนับสนุน ในภาคประชาชนถ้าเข้ามาช่วยเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม  อย่างน้อยตัวผมสนับสนุนเต็มที่ตอนนี้มีตำบลต่าง ๆ อาสาในพื้นที่ 70  และในวันที่ 20 เดือนหน้าก็จะไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนในภาคกลาง  ลพบุรีมีนายกเก่ง โครงสร้างชุมชนในการฟื้นฟูยาเสพติด  แต่เขาก้าวไปมากกว่ายาเสพติดเป็นการฟื้นฟูคนให้มีอนาคตที่ด

   

ผู้สื่อข่าวถามว่าให้เปอร์เซ็นต์การปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลชุดนี้อย่างไรบ้าง?     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  บอกด้วยว่า   เรื่องสกัดกั้นเราทำเยอะแล้ว  แต่เราอาจต้องก้าวผ่าน   ถ้าประชาชนยังมีความหวาดวิตกหรือกังวลกับ ยาบ้า  หรือยาเสพติด   อันนั้นถือว่ารัฐบาลยังไม่ผ่าน   แล้วสิ่งหนึ่งที่ผ่านมาคือเราจะเห็นข่าวอาชญากรรม  พอมีข่าวมีผลมาจากยาเสพติดซึ่งคือผู้ป่วยจิตเวช   ซึ่งความจริงผู้ป่วยจิตเวชมีเป็นล้าน   ยาเสพติดไม่เยอะ  สาเหตุของจิตเวชก็มาหลายแห่ง   พอผู้ก่อเหตุจากจิตเวชก็จะโยนให้ยาเสพติด  เราก็ต้องทำความเข้าใจ   เราก็อย่าไปปฏิเสธว่าไม่ใช่ยาเสพติด  หน้าที่เราเราต้องไปรักษาคนที่ป่วยเป็นจิตเวช  เพราะจิตเวชต้องรักษาด้วยยา  ถ้าขาดยาเคมีไปทำลายสมอง เหมือนคนที่เป็นเบาหวานเป็นความดันอย่าไปรังเกียจเขา  เราอาจจะเอาสองอันมาผนวก   ต้องเสมอต้นต้นเสมอปลายในการให้ยา   บางทีเรามาแยกว่าจิตเวชเพราะยาเสพติด  หรือจิตเวชเพราะอื่น ๆ หมอก็ยังแยกไม่ได้   แต่สื่อมวลชนแยกแล้วก็ทำให้ยาเสพติดน่ากลัว

ผู้สื่อถามว่าการทำงานในขณะนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่ในการแก้ปัญหายาเสพติด? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  ตอบว่า  คิดว่าเราเดินทางมาถูกต้องแล้ว  ทุกคนตระหนักถึงยาเสพติดด้วยกัน   เราก็ต้องแก้ปัญหามันอาจจะหมักหมมมานานว่าปัญหายาเสพติดส่วนหนึ่ง   ที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเกิดจากคนไม่มีการศึกษา  หรือการศึกษาน้อยจะถูกดำเนินคดี  เพราะผู้ต้องขังในเรือนจำพบว่ามีการการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับประมาณ 75%   นี่แสดงว่าการศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยต้องให้เกิน   การแก้ปัญหายาเสพติด  ก็คือการแก้ปัญหาการศึกษา  ทำอย่างไรให้ทุกหมู่บ้านทุกชุมชนได้เรียนจบ ม.6 ทั้งหมด   อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้เพราะทุกคนได้รับเงินจากรัฐบาลผ่านกระทรวงศึกษาคนละประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท เพื่อให้ได้รับการศึกษาก็จะช่วยลดในการแก้ปัญหายาเสพติด