ตำรวจนางรอง และประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขึ้นไปจับกุมลุงวัย 52 บนรถโดยสารที่ ขบส.นางรอง หลังก่อเหตุล้วงกระเป๋าฉกเงินสดหญิงวัย 57 ตอนทำบุญที่วัด ขณะ จนท.จับกุมลุงอยู่ในสภาพเมาแอ๋บอกมีอาชีพขับแท็กซี่ที่กรุงเทพฯ กลับมาฟอกไตและรับยาที่ รพ.ห้วยราช บีบน้ำตาก้มกราบผู้เสียหายอ้างป่วยจะเก็บไว้รักษาตัว เหยื่อใจอ่อนบอกไม่อยากเอาเรื่องแม่จะได้เงินคืนไม่ครบ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้เข้าทำการจับกุมนายยงยุทธ์ หรือลุงอี๊ด อายุ 52 ปี บนรถโดยสารประจำทางสายสุรินทร์ – นครราชสีมา ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร หรือ (บขส.) นางรอง พร้อมเงินของกลางจำนวน 28,300 บาท หลังได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าของนางบัวตอง อายุ 57 ปี ซึ่งทำธุรกิจเป็นหุ้นส่วนรถโดยสารประจำทาง ขณะไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองได้รับแจ้ง ก็ได้ประสานตำรวจ สภ.ประโคนชัย และ สภ.นางรอง ช่วยกันสกัดจับคนร้าย กระทั่งทราบว่าคนร้ายได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางคันหนึ่งจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังไปสกัดจับ กระทั่งสามารถจับกุมนายยงยุทธ์ ได้ขณะอยู่บนรถโดยสาร ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ขึ้นไปควบคุมตัวนายยงยุทธ์ อยู่ในสภาพเมาแอ๋
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบถามนายยงยุทธ์ ผู้ก่อเหตุ ขณะนั้น นางบัวตอง ผู้เสียหายก็เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สิน ก็พบเงินสดในตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 28,300 บาท จากเงินที่หายไปทั้งหมด 35,500 บาท ซึ่งตอนแรกนายยงยุทธ์ อ้างว่าเงินที่เจอในตัวเป็นเงินที่ได้จากการขับแท็กซี่ แต่พอเจ้าหน้าที่จี้ถามพร้อมยืนยันว่ามีหลักฐาน นายยงยุทธ์ จึงยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าจริง ก่อนจะร้องไห้และก้มกราบขอโทษหวังให้ผู้เสียหายไม่เอาเรื่อง
จากการสอบถามนายยงยุทธ์ หรือลุงอี๊ด เล่าว่า ปกติมีอาชีพขับแท็กซี่อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ป่วยโรคไต ต้องกลับมาเอายาที่ รพ.ห้วยราช เพราะสิทธ์รักษาอยู่ที่นี่ ซึ่งวันนี้จะต้องกลับกรุงเทพฯ แต่ไม่มีเงิน จึงไปขอข้าววัดที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองกิน แต่พอไปถึงเห็นเงินในกระเป๋าของผู้เสียหายที่มาทำบุญ จึงล้วงออกมา ก่อนจะนั่งรถแท็กซี่จากบุรีรัมย์มาลง บขส.ประโคนชัย เพื่อขึ้นรถโดยสารจะกลับกรุงเทพฯ แต่มาถูกจับกุมได้ที่ บขส.นางรอง
ด้านนางบัวตอง เล่าว่า วันนี้ตนไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ กระทั่งช่วง 11.00 น.พอทำบุญเสร็จตรวจดูในกระเป๋าไม่เจอ แต่ตนจำได้ว่ามีลุงคนหนึ่งมาขอข้าวตนกิน จึงเชื่อว่าลุงน่าจะเป็นคนเอาเงินไปแน่ๆ จึงแจ้งคนในวัดให้ทราบ ก่อนจะรู้ว่าลุงไปที่ บขส.ประโคนชัย ก็หลายชั่วโมงแล้ว จากนั้นได้โทรหาตำรวจ ให้ตรวจสอบ บขส.ประโคนชัย ทราบว่าลุงคนดังกล่าวอยู่บนรถบัส สายสุรินทร์-โคราช กำลังจะมาลง บขส.นางรอง เจ้าหน้าที่จึงสกัดและรวบตัวได้ ส่วนเงินนั้นตนเตรียมไว้จ่ายค่างวดรถบัส 32,000 บาท และเงินใช้หนี้อีก 3,000 บาท และเงินที่เพื่อนบ้านฝากทำบุญ 500 บาท รวมเป็น 35,500 บาท ตนดีใจที่ได้เงินคืน และได้ตัวคนกระทำความผิด ขอขอบคุณตำรวจประโคนชัย และตำรวจนางรอง มากๆ โชคดีที่บุญรักษา นึกว่าจะฟาดเคราะห์ช่วงสงกรานต์
ส่วนเงินที่ตัวลุง เหลือเพียง 28,300 บาท ลุงรับสารภาพว่าเป็นคนล้วงเอาเงินจากในกระเป๋าผู้เสียหายจริง ผู้เสียหายจึงไม่อยากติดใจ จึงไม่ดำเนินคดีกับลุงส่วนเงินส่วนต่าง 7,200 บาทถือว่าฟาดเคราะห์ไป