วันที่ 5 เมษายน 2567 ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว" พร้อมทั้งมอบรางวัลและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 แด่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณประเภทต่างๆ ได้แก่ 1) สื่อสร้างสรรค์ด้านผู้สูงอายุและครอบครัว 2) องค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนงานด้านผู้สูงอายุ 3) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ร่วมขับเคลื่อนและส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว 4) ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนที่มีผลงานดีเด่นในการส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว และ 5) ภาพยนตร์ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว
นายวราวุธ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2525 กำหนดให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เพื่อให้ประชาชนและสังคม ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ และมีมติเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2533 กำหนดให้วันที่ 14 เมษายน ของทุกปีเป็น “วันแห่งครอบครัว” ซึ่งเป็นไปตามองค์การสหประชาชาติที่ได้กำหนดให้ใช้คำ “Family Day” สำหรับวันแห่งครอบครัว เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน หน่วยงาน และองค์กร ตระหนักถึง ความสำคัญของผู้สูงอายุและครอบครัว และบูรณาการความร่วมมือกันในการส่งเสริมและพัฒนา โดย กระทรวง พม. ได้จัดงาน “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และ “วันแห่งครอบครัว” เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับปี 2567 กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้กำหนดจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ภายใต้แนวคิด “ผู้สูงวัย ศูนย์รวมใจของครอบครัว” เพื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์และความผูกพันของสมาชิกทุกช่วงวัยในครอบครัวที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ ส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว คนทุกช่วงวัยมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมที่เอื้อต่อการดูแลกันและกัน ทำให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข อีกทั้งคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติได้คัดเลือกให้ คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 เนื่องด้วย ที่ผ่านมา ท่านได้ช่วยเหลือสังคม ด้วยการขับเคลื่อนโครงการทรูปลูกปัญญา เป็นการมอบโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม พร้อมสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ มาเป็นเวลากว่า 40 ปี นอกจากนี้ ยังมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลด้านผู้สูงอายุและครอบครัว อาทิ ผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดี (ระดับจังหวัด) บุคคลดีเด่นด้านการพัฒนาครอบครัว สื่อสร้างสรรค์ด้านผู้สูงอายุและครอบครัว องค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนงานด้านผู้สูงอายุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ร่วมขับเคลื่อนและส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว ภาพยนตร์ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สุงอายุและครอบครัว ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” และรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 300 รางวัล
นายวราวุธ กล่าวว่า ในนามของกระทรวง พม. ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัล เนื่องในโอกาสวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันแห่งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท และบุคคลที่เป็นตัวอย่าง ซึ่งกระทรวง พม. รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มอบรางวัลอันทรงคุณค่าให้กับทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2567 ที่มอบให้กับคุณธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้ที่เปรียบเสมือนแบบอย่างที่ดีให้กับหลายๆ คน ให้กับหลายๆ องค์กร ว่าคนหนึ่งคนนั้นจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแผ่นดินไทยได้อย่างไร โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องอายุเท่าไหร่ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเพศใดหรือสถานะใด วันนี้กระทรวง พม. ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว การให้ผู้สูงอายุเป็นศูนย์รวมใจของครอบครัวนั้น เป็นการตอกย้ำความสำคัญที่กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็ง สร้างเกราะกำบังให้กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก ปู่ย่าตายาย หรือรุ่นหลาน แต่ละรุ่นนั้นรวมตัวกันอยู่ใต้ร่มชายคาเดียวกัน คือเอกลักษณ์ของสังคมไทย และเป็นคุณค่าที่เราควรจะอนุรักษ์และหวงแหนไว้ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างสังคมให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น และเมื่อสังคมมีความเข้มแข็ง ประเทศไทยจะมีความเข้มแข็งมากขึ้นด้วย ดังนั้นผู้สูงวัยทุกคน ที่เปรียบเสมือนจุดรวมใจของคนในครอบครัวนั้น ท่านเปรียบเสมือนแม่เหล็ก เปรียบเสมือนหางเสือของครอบครัว ซึ่งถ้าหากว่าไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในวันนั้น จะไม่มีคนรุ่นต่อๆ ไปในวันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะวันที่ 13 เมษายน และวันที่ 14 เมษายน แต่ควรจะให้ความสำคัญกับท่านในทุกๆ วัน
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ขอให้ดีใจที่คนรุ่นใหม่นั้น ยังมีพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ให้เราได้กอด ให้เราได้ทำความเคารพ ให้เราได้แสดงความรัก ดังนั้น ขอให้ทุกคนได้ยึดความเป็นขนบธรรมเนียมที่ประเทศไทยเรามีมานาน ความรักในครอบครัวในการที่จะสร้างสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง ทั้งนี้ กระทรวง พม. ขอให้คำมั่นว่า เราจะทำงาน การดูแลผู้สูงอายุ และพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ด้วยความสามารถอย่างเต็มที่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะพัฒนาสังคมไทย โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และวันนี้สิ่งที่สำคัญ คือการที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีความ Active เพราะว่าเป็น Active aging ผู้สูงอายุนั้นจะมี 3 แบบ ได้แก่ ผู้สูงอายุติดสังคม ผู้สูงอายุติดบ้าน และผู้สูงอายุติดเตียง การที่ทำให้ผู้สูงอายุเป็นผู้ติดสังคมมากเท่าไหร่ย่อมจะทำให้ย่นระยะเวลา เป็นผู้สูงอายุติดบ้าน และติดเตียง ถ้าหากเราทำแบบนี้ได้ ผู้สูงอายุจะมีความสุขทั้งกายและใจ และจะแบ่งเบาภาระ ทางด้านสาธารณสุข และงบประมาณด้วยเช่นกัน เราต้องทำให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมโดยมีศูนย์บริบาลผู้สูงอายุชุมชน ซึ่งต้องทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่า การดูแลผู้สูงอายุนั้นเป็นอาชีพได้เช่นกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่กระทรวง พม. เร่งขับเคลื่อนดำเนินการทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้