คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย
นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 การรณรงค์หาเสียงในเรื่องราวการเมืองสหรัฐฯระหว่างค่ายของ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน”กับค่ายของ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” กำลังจะเข้าสู่โหมดคึกคักดุเดือดเข้มข้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยฝ่ายค่ายของประธานาธิบดีโจ ไบไดน ตั้งเป้าต้องการที่จะเร่งระดมเม็ดเงิน เพื่อนำมาใช้เป็นต้นทุนในการหาเสียงอย่างน้อยอยู่ที่หนึ่งพันล้านดอลลาร์ ส่วนค่ายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็กำลังระดมทุนจากบรรดานักธุรกิจมหาเศรษฐีกระเป๋าหนักด้วยเช่นกัน!!!
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2024 ค่ายพรรคเดโมแครตก็ได้มีการผนึกพลังของสามประธานาธิบดี นั่นก็คือ “ประธานาธิบดีบิล คลินตัน” , “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา” และ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ทำการจัดงานอันแสนยิ่งใหญ่ร่วมกับวงการบันเทิง โดยมีดาราชื่อดังเข้าร่วมงานอย่างมากมาย อาทิเช่น Queen Latifaih, Lizzo, Cynthia Ervo, Mindy Kaling, Ben Platt และ Lea Michelle ที่ศูนย์ “Radio City Music Hall” ณ กรุงนิวยอร์ก เพื่อระดมทุนหาเงินบริจาคสำหรับใช้ในการหาเสียงนั่นเอง
การจัดงานระดมหาเงินบริจาคในครั้งนี้ ปรากฏว่าพรรคเดโมแครตได้รับเงินบริจาคถึง 26 ล้านดอลลาร์ ที่ถือว่าเป็นทุนประเดิมก้อนใหญ่จนกลายเป็นข่าวดังเกรียวกราวมากที่สุดในแวดวงการเมือง โดยบัตรที่จำหน่ายให้แก่ผู้ที่ต้องการจะเข้าร่วมในงานหมดเกลี้ยงตั้งแต่เริ่มเปิดขาย ราคาตั๋วมีตั้งแต่ 225 ดอลลาร์ ไปจนถึง 500,000 ดอลลาร์!!!
งานระดมทุนในครั้งนี้เปิดโอกาสให้แก่แขกห้าพันกว่าคน ได้ร่วมถ่ายภาพกับประธานาธิบดีทั้งสามคนโดย“แอนนี ไลโลวิทซ์”ช่างภาพชื่อดัง ในงานวันนั้น ประธานาธิบดีบิล คลินตันได้กล่าวว่า “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีที่ข้าพเจ้าต้องการจะได้เห็น เพระเป็นผู้นำที่ดีอยู่แล้ว และไม่จำเป็นที่จะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง”
การปรากฏตัวของสามประธานาธิบดีพร้อมๆกันเช่นนี้ นับว่าเป็นปรากฏการณ์พิเศษในประวัติศาสตร์อเมริกา และจากการรายงานของสำนักงานหยั่งเสียงบางสำนักว่า ขณะนี้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เริ่มจะแซงขึ้นหน้าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ไปบ้างแล้ว หลังจากที่ผ่านมาคะแนนนิยมของเขาคอยตามหลังอยู่ตลอดเวลา
สำหรับบทบาทของประธานาธิบดีโอบามานั้นเป็นที่ยอมรับกันว่า ด้านการวางกลยุทธ์และการรณรงค์หาเสียงไม่มีนักการเมืองคนใดที่มีทักษะเทียบเท่ากับเขาเลย
และในอีก 7 เดือนข้างหน้านี้สิ่งที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะเข้ามาร่วมมีบทบาทก็คงในแง่มุ่งระดมหาเม็ดเงินให้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และช่วยในด้านจูงใจชาวอเมริกันรุ่นเยาว์โดยเฉพาะชาวผิวสีและชาวละตินให้หันมาสนับสนุนพรรคเดโมแครตนั่นเอง
“จิม เมสซินา” ผู้จัดการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งขณะนี้เข้ามารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “ประธานาธิบดีบารัก โอบามา อดีตเจ้านายเก่าของข้าพเจ้าวางแผนที่จะทำทุกอย่าง เพื่อรักษาตำแหน่งประธานาธิบดี ในสมัยที่สองเอาไว้ให้จงได้”
ทั้งนี้หนึ่งวันก่อนหน้าที่จะมีการจัดงานระดมทุนประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้เข้าเยือนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาวร่วมกับ “อดีตประธานสภาฯแนนซี เพโลซี” โดยประธานาธิบดีโอบามาได้กล่าวว่า “เป็นการจำเป็นอย่างยิ่งที่ขณะนี้ พรรคของเรามีโอกาสที่จะสร้างผลงานเพื่อชาวอเมริกัน และเราก็ต้องการที่จะสร้างผลงานให้มากกว่านี้ในอีกต่อๆไป โดยเราต้องการจะให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ได้รับเลือกอีกหนึ่งสมัย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่สมาชิกในพรรคเดโมแครตทุกๆคนจะต้องทำงานให้หนักยิ่งๆขึ้น”
โดยตอนหนึ่งประธานาธิบดีโอบามาก็ได้กล่าวเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนต่อชาวอเมริกันทั่วประเทศ นับเป็นสุนทรพจน์ที่ดีมากๆ และนับเป็นตัวจุดประกายให้คนอเมริกันได้รับทราบถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล อีกทั้งชาวอเมริกันมีความพึงพอใจในการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นอย่างสูงอีกด้วย
สำหรับบทบาทของประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่มีให้แก่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นั้น เขาถูกวางแผนให้รับหน้าที่เป็นผู้วิ่งรอกหาเสียงไปทั่วประเทศ สืบเนื่องมาจากเขาเป็นนักรณรงค์หาเสียงที่เก่งกาจอย่างหาตัวจับยากและยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันอย่างมิรู้เสื่อมคลาย และประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก็ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับประธานาธิบดียอดเยี่ยมของสหรัฐฯระดับต้นๆต่อจาก “ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี” และ “ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน” อีกด้วย
ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ออกจากตำแหน่งเมื่อปีค.ศ. 1992 โดยตอนนั้นเขามีอายุเพียง 51 ปี แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เขาก็ยังคงมีบทบาททางการเมืองสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง และจากการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2024 ว่าประธานาธิบดีบิล คลินตัน จะเดินทางไปร่วมหาเสียงควบคู่ไปกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนตลอดเวลา
ทั้งนี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งประธานาธิบดีบารัก โอบามา และประธานาธิบดีบิล คลินตัน ต่างก็ออกมาร่วมกันช่วยรณรงค์หาเสียงให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยมาแล้วเช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตอีกด้วยว่า ขณะที่ 2 ประธานาธิบดีของค่ายพรรคเดโมแครตเดียวกันกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังร่วมจับมือผนึกพลังในการรณรงค์หาเสียงให้แก่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กันอย่างเหนียวแน่นก็ตาม แต่กลับปรากฏว่า “ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู.บุช”แห่งค่ายพรรครีพับลิกันพยายามตีตัวออกห่างจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเห็นได้เด่นชัด!!!
กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการจัดงานระดมเม็ดเงินเพื่อใช้ในการหาเสียง เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ณ นครนิวยอร์ก ที่ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ร่วมจับมือกับ “อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน” และ “อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา” นับเป็นการผนึกพลังครั้งสำคัญ โดยเฉพาะเป็นการผนึกของสามประธานาธิบดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยต่างมีเป้าหมายหลักอย่างเดียวกันก็คือ ต้องการจะเอาชนะ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”และการระดมทุนหาเสียงจนได้ยอดเงินถึง 26 ล้านเหรียญดอลลาร์ และมีผู้เข้าร่วมงานกว่าห้าพันคน ก็นับเป็นตัวจุดประกายและเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีให้แก่พรรคเดโมแครตที่สร้างความน่าเกรงขามมิใช่น้อยเลยละครับ