นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ใช้บริการเดินทางด้วยรถไฟเป็นจำนวนมาก ล่าสุดนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลาเนา และท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ได้อย่างเพียงพอ ปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้การรถไฟฯ ขยายเวลาเปิดให้บริการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถด่วนพิเศษและขบวนรถด่วน จำนวน 32 ขบวน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้พี่น้องประชาชนทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้มากขึ้น โดยภาพรวมการจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้า 90 วัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นั้น มีผู้โดยสารให้ความสนใจจองตั๋วโดยสาร เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันที่ 10 – 11 เมษายน 2567 และขากลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 16 - 17 เมษายน 2567 ซึ่งมีการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเต็มทุกชั้นทุกขบวน
ทั้งนี้จากนโยบายดังกล่าวทำให้การรถไฟฯ สามารถทราบถึงสถิติความต้องการในการเดินทางของประชาชน และสามารถวางแผนการเพิ่มขบวนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับรองรับการเดินทางของประชาชนเพิ่มเติม เป็น 2 ช่วง คือ เที่ยวไป ระหว่างวันที่ 10, 11, 12 และ 14 เมษายน 2567 รวม 8 ขบวน และเที่ยวกลับ ระหว่างวันที่ 11, 13, 16 และ 17 เมษายน 2567 อีก 8 ขบวน ทำให้สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน รวมถึงจัดเตรียมรถโดยสารสำหรับหมุนเวียนเพิ่มเติม จำนวน 40 คัน สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการซื้อตั๋วในวันเดินทาง ให้เพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
นายเอกรัชฯ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาใช้บริการเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคม จึงได้กำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการสูงสุด โดยได้มอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ประสานการทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างผู้โดยสารที่ใช้บริการโดยรถไฟ และรถขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ โดยให้นำรถบัสโดยสารเฉพาะของบขส. (ไม่รวมรถร่วมบริการและรถตู้โดยสาร) เข้ามาจอดส่งผู้โดยสารขาเข้าได้ที่บริเวณประตูที่ 3 ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางต่อเนื่อง สามารถเดินทางเชื่อมต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางเชื่อมต่อให้กับประชาชน
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ มั่นใจว่าจะสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และสามารถรับส่งผู้ใช้บริการทุกคนให้ถึงที่หมายอย่างสะดวกและปลอดภัยตลอดการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารที่สนใจเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย